กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยบริษัทใหม่ พ.ค.68 จำนวน 6,667 ราย ลด 11.09% เลิก 855 ราย ลด 14.84% รวม 5 เดือน ตั้งใหม่ 36,815 ราย ลด 5.68% เลิก 4,776 ราย เพิ่ม 3.31% ล่าสุดยอดจดบริษัทไทยทะลุ 2 ล้านรายแล้ว คาดทั้งปีมีลุ้นตั้งใหม่ 9 หมี่นราย หลังรัฐคลอดโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง เร่งเบิกจ่ายงบ แก้ปัญหา SME เจรจาการค้า แต่ต้องระวังเศรษฐกิจการค้าโลกชะลอ ภาษีสหรัฐฯ สงคราม ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ เดือน พ.ค.2568 มีจำนวน 6,667 ราย ลดลง 11.09% ทุนจดทะเบียน 18,965 ล้านบาท ลดลง 13.35% และยอดรวม 5 เดือน ของปี 2568 (ม.ค.-พ.ค.) มีจำนวน 36,815 ราย ลดลง 5.68% ทุนจดทะเบียน 131,027 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13,927 ล้านบาท โดยธุรกิจตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ทั้งของเดือน พ.ค.2568 และรวม 5 เดือน เหมือนกัน คือ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร
ส่วนธุรกิจเลิกกิจการเดือน พ.ค.2568 มีจำนวน 855 ราย ลดลง 14.84% ทุนจดทะเบียนเลิก 4,150 ล้านบาท ลดลง 92.43% รวม 5 เดือน มีจำนวน 4,776 ราย เพิ่มขึ้น 3.31% ทุนจดทะเบียนเลิกสะสม 20,140 ล้านบาท ลดลง 71.97% โดยธุรกิจที่เลิก 3 อันดับแรก ทั้งเดือน พ.ค. และ 5 เดือน เหมือนกัน คือ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร
ทั้งนี้ ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 พ.ค.2568) มีธุรกิจที่จดทะเบียนนิติบุคคลรวมทั้งสิ้น 2,001,647 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 30.84 ล้านล้านบาท มีนิติบุคคลดำเนินกิจการอยู่ 953,580 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 22.56 ล้านล้านบาท แบ่งออกเป็นบริษัทจำกัด 753,780 ราย หรือ 79.05% ของจำนวนนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ทั้งหมดทุนจดทะเบียนรวม 16.78 ล้านล้านบาท ห้างหุ้นส่วนจำกัดและห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 198,307 ราย หรือ 20.80% ของจำนวนนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ทั้งหมด ทุนจดทะเบียนรวม 0.43 ล้านล้านบาท และบริษัทมหาชนจำกัด1,493 ราย หรือ 0.15% ของจำนวนนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ทั้งหมด ทุนจดทะเบียนรวม 5.36 ล้านล้านบาท
สำหรับนิติบุคคลในกลุ่มธุรกิจบริการ เป็นประเภทธุรกิจที่มีสัดส่วนการจดทะเบียนมากที่สุดมีจำนวน 516,498 ราย ทุนจดทะเบียน 13.05 ล้านล้านบาท รองลงมา คือ กลุ่มธุรกิจค้าส่งค้าปลีก 311,963 ราย ทุน 2.57 ล้านล้านบาท และธุรกิจผลิต 125,119 ราย ทุน 6.95 ล้านล้านบาท คิดเป็น 54.16%, 32.72% และ 13.12% ของจำนวนนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการอยู่ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม กรมคาดว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 เศรษฐกิจไทยจะมีแรงกระตุ้นจากโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568 การเร่งรัดเบิกจ่ายเงินงบประมาณ มาตรการฟื้นฟูความเชื่อมั่นของการท่องเที่ยว มาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาให้ SME และการเจรจาจัดทำความตกลงทางการค้ากับต่างประเทศ จะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้มีการทำธุรกิจเพิ่มมากขึ้น โดยประเมินว่ายอดตั้งบริษัทใหม่ทั้งปีจะอยู่ที่ 90,000 ราย แต่ก็ต้องระวังปัจจัยเสี่ยง อาทิ ความไม่แน่นอนของสถานการณ์เศรษฐกิจและการค้าโลก มาตรการทางการค้าและการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ สถานการณ์ในตะวันออกกลาง สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ