“ปลัดพาณิชย์” เผยไทย-สหรัฐฯ เริ่มนับหนึ่งเจรจาภาษีนำเข้าแล้ว เตรียมส่งข้อเสนอฝ่ายไทยให้สหรัฐฯ พิจารณา 20 มิ.ย.นี้ มั่นใจได้ผลเชิงบวก ไม่ทำให้ไทยเสียเปรียบ แต่จะสร้างสมดุลทางการค้าระหว่างสองประเทศ และปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของไทย
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะทีมเจรจาฝ่ายไทย เพื่อแก้ปัญหากรณีสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีตอบโต้กับประเทศคู่ค้า (Reciprocal Tariffs) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2568 เวลาประมาณ 07.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ตนและทีมประเทศไทยได้เริ่มต้นการเจรจากับสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์เป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ หลังจากที่สหรัฐฯ ตอบรับที่จะเจรจากับไทย โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเพื่อรับฟังรายละเอียดข้อเสนอของสหรัฐฯ ที่ต้องการให้ไทยพิจารณาในการแก้ไขปัญหาการขาดดุลการค้า ซึ่งสหรัฐฯ ได้ยื่นข้อเสนอจำนวน 5 ข้อมาให้ไทยเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2568 ที่ผ่านมา
โดยข้อเสนอทั้ง 5 ข้อเพื่อสร้างสมดุลทางการค้าระหว่างสองประเทศ ประกอบด้วย 1. มาตรการทางภาษีและโควตา 2. มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (NTB) 3. การค้าดิจิทัล (Digital Trade) 4. แหล่งกำเนิดสินค้า และ 5. ความมั่นคงภายในประเทศและด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ (Economic and National Security)
“ได้คุยกับผู้ช่วย USTR เป็นการทำความเข้าใจในรายละเอียดข้อเสนอที่สหรัฐฯ ส่งให้ไทย เพื่อให้มีความเข้าใจตรงกัน และจากนี้จะนำข้อเสนอของสหรัฐฯ มาพิจารณา และจัดทำข้อเสนอของฝ่ายไทยที่สอดคล้องกับข้อเสนอของสหรัฐฯ และยื่นให้สหรัฐฯ พิจารณาในวันที่ 20 มิ.ย. 2568 โดยมั่นใจว่าข้อเสนอของไทยจะส่งผลในเชิงบวก และจะไม่ทำให้ไทยเสียเปรียบ แต่จะสร้างสมดุลทางการค้าของทั้งสองฝ่าย และจะเป็นการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของไทย” นายวุฒิไกรกล่าว
ส่วนข้อเสนอของไทยที่จะยื่นให้สหรัฐฯ ในวันที่ 20 มิ.ย. 2568 จะมีความยาวประมาณ 3-4 หน้ากระดาษ A4 เป็นการขยายความ และเพิ่มรายละเอียดต่างๆ จากกรอบการเจรจาที่ไทยได้เคยยื่นให้สหรัฐฯ ไปแล้วก่อนหน้านี้ที่มีเพียง 1 หน้ากระดาษ A4 โดยจะมีทั้งการลดภาษีนำเข้าในสินค้าบางรายการ การซื้อเครื่องบินโบอิ้ง อาวุธยุทโธปกรณ์จากสหรัฐ และการลดมาตรการ NTB เป็นต้น
สำหรับการประชุมครั้งนี้มีหน่วยที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และกระทรวงแรงงาน เป็นต้น
ทั้งนี้ ขั้นตอนหลังจากไทยยื่นข้อเสนอในวันที่ 20 มิ.ย.นี้แล้วต้องรอการนัดหมายจากสหรัฐฯ ต่อไป โดยมั่นใจว่าข้อเสนอของไทยจะมีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้สหรัฐฯ พิจารณา และเปิดเจรจาในรายละเอียดกับไทยอีกครั้ง แต่หากเจรจาไม่ทันภายในกรอบระยะเวลา 90 วัน หรือวันที่ 8 ก.ค. 2568 เชื่อว่าสหรัฐฯ จะขยายเวลาออกไป โดยสิ่งที่คาดหวังจะได้จากการเจรจาครั้งนี้ต้องยอมรับว่าเรื่องภาษี 0% คงเป็นไปไม่ได้ แต่อัตราภาษีไม่เกิน 10% มีความเป็นไปได้ แต่ก็ต้องรอดูผลต่อไป
อย่างไรก็ตาม ก่อนการเจรจากับสหรัฐฯ ตนได้ลงนามร่วมกับผู้ช่วย USTR ในความตกลงการไม่เปิดเผยข้อมูลการเจรจา (Non-Disclosure Agreement) โดยกำหนดต้องไม่เปิดเผยข้อมูลการเจรจาเป็นเวลานาน 4 ปี และผู้ที่มีสิทธิจึงจะสามารถได้รับ Username และ Password ในการเข้าสู่ชั้นข้อมูลได้ ดังนั้น จึงจะไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดข้อมูลของการเจรจาได้