“พิชัย”คาดเปิดเจรจาภาษีสหรัฐฯ ระดับเจ้าหน้าที่ทางเทคนิคสัปดาห์นี้ผ่านทางออนไลน์ ยันเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้วในทุกเรื่อง แต่ยังเปิดรายละเอียดไม่ได้ เหตุมีการลงนามเรื่องเปิดเผยข้อมูล หากจบพร้อมชี้แจง แย้มส่งออก พ.ค.68 ยังโตแรง นัดแถลงเร็วขึ้น 18 มิ.ย.นี้ เรียกร้อง ธปท. ดูแลค่าเงินบาท ขอ 37-38 บาท หนุนส่งออก ท่องเที่ยว ยันสงครามอิสราเอล-อิหร่าน ส่งออกยังไม่กระทบ กัมพูชาปิดด่าน ต้องรอดูสถานการณ์ก่อน
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเจรจาภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ว่า ภายในสัปดาห์นี้ จะสามารถเปิดการเจรจาทางเทคนิคระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ได้อย่างแน่นอน โดยการเจรจาได้เตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้วในทุกเรื่อง เป็นการเจรจาผ่านระบบออนไลน์ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะมีการลงนามในเรื่องการเปิดเผยข้อมูล คาดว่าจะมีผลดีอย่างแน่นอน มั่นใจว่าอัตราภาษีน่าจะอยู่ในระดับที่ต่ำ คาดหวังที่ 10% เมื่อเจรจาเสร็จแล้ว จะมีการชี้แจงอย่างแน่นอน
“ตอนนี้ ยังเป็นการพูดคุยกันในระดับเจ้าหน้า ยังไม่ต้องเดินทางไปเจรจาที่สหรัฐฯ สามารถเจรจาผ่านออนไลน์ทางวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ได้ ถ้าจบแล้ว และจำเป็นต้องคุยในระดับรัฐมนตรี ก็จะเป็นนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยไปที่สหรัฐฯ”
สำหรับการส่งออก มั่นใจว่าปีนี้จะยังเป็นพระเอกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยตัวเลขการส่งออก เดือน พ.ค.2568 จะแถลงเร็วขึ้นเป็นวันที่ 18 มิ.ย.2568 มีข่าวดีมากแน่นอน ตัวเลขดีมาก เชื่อว่า ปีนี้การส่งออกติดลบเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะกระทรวงพาณิชย์ได้ทำงานอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม เห็นว่า ปัจจุบันเงินบาทค่อนข้างจะแข็งค่า ทำให้มีผลกระทบต่อการส่งออก และการท่องเที่ยว โดยตอนนี้ ประเทศอื่น ๆ ค่าเงินอ่อนค่าไป 20% แต่ไทยกลับแข็งค่า เงินบาทที่เหมาะสมควรจะอยู่ที่ 37-38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนปัจจุบัน คงไม่ดู ก็อยากจะฝาก หากมีผู้ว่าฯ ธปท.คนใหม่ ก็ขอให้ช่วยดูแลค่าเงินบาทให้เหมาะสมด้วย เพื่อหนุนการส่งออก ท่องเที่ยว และยังช่วยลดผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ ด้วย
ส่วนปัญหาการสู้รบของอิสราเอลและอิหร่าน เบื้องต้นยังไม่ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทย แต่มีผลกระทบต่องราคาน้ำมันและราคาทองคำ ที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น แต่กระทรวงพาณิชย์จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
ทั้งนี้ กรณีที่กัมพูชาขู่จะปิดด่านชายแดน เท่าที่ทราบ มีการปิดแล้ว และก็เปิดในเวลาต่อมา สินค้ายังเข้าออกได้ แต่ได้มอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศไปติดตามอย่างใกล้ชิดแล้ว
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ได้รับรายงานว่าภาพรวมการส่งออกสินค้าไทยส่วนใหญ่ยังทำได้ปกติ ไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากสินค้าที่ไทยส่งออกไปกัมพูชาส่วนมากเกือบ 100% จะส่งผ่านด่านศุลกากรไทย-กัมพูชา 5 ด่านใหญ่ ได้แก่ ด่านอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ด่านคลองใหญ่ จ.ตราด ด่านจันทบุรี ด่านช่องจอม จ.สุรินทร์ และด่านช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งที่ผ่านมา ยังไม่มีการปิดด่านแต่อย่างใด ส่วนที่มีข่าวปิดด่านนั้น จะเป็นจุดผ่านแดน ซึ่งสินค้าไทยส่วนใหญ่ไม่ได้ส่งออกผ่านจุดนั้น แต่อาจมีผลกระทบบ้างต่อผู้ประกอบรายย่อยที่ค้าขายบริเวณนั้น แต่ไม่มาก เพราะเป็นการเปิดปิดเพียงชั่วคราวระยะเวลาสั้น ๆ แต่ถ้าจะมีการปิดยาว ก็ต้องมีการติดตามผลกระทบต่อไป