xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” ขึ้นทะเบียน GI ใหม่ “ส้มโชกุนเบตง” ของดี จ.ยะลา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมทรัพย์สินทางปัญญาประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รายการใหม่ “ส้มโชกุนเบตง” สินค้า GI รายการที่ 3 ของจังหวัดยะลา เป็นของดีแดนใต้ รสชาติหวาน หอม เนื้อนุ่ม ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากผู้บริโภคและนักท่องเที่ยว มั่นใจหลังขึ้นทะเบียน GI ช่วยเพิ่มมูลค่า สร้างชื่อเสียง และเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกเพิ่มขึ้น

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รายการใหม่ คือ ส้มโชกุนเบตง เป็นสินค้า GI ลำดับที่ 3 ของจังหวัดยะลา ต่อจากกล้วยหินบันนังสตา และทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI ไปก่อนหน้านี้ โดยมั่นใจว่าหลังจากขึ้นทะเบียน GI แล้วจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างชื่อเสียงให้กับส้มโชกุนเบตง และเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกส้มได้มากขึ้นจากปัจจุบันที่มีรายได้ปีละกว่า 167 ล้านบาท

สำหรับส้มโชกุนเบตงเป็นต้นกล้าส้มเขียวหวานจากประเทศจีน ที่ถูกนำมาปลูกในอำเภอเบตง ด้วยภูมิอากาศแบบร้อนชื้น มีฝนตกชุก และได้รับแสงแดดน้อย ส่งผลให้ส้มที่ปลูกมีลักษณะแตกต่างจากส้มเขียวหวานทั่วไป มีสีเขียวอมส้มเล็กน้อย ผลใหญ่ ผนังกลีบบาง ไม่มีกาก เนื้อผลมีสีเข้ม ฉ่ำน้ำ รสชาติหวานผสมเปรี้ยวนำเล็กน้อย เปลือกค่อนข้างหนาแต่ล่อน ปอกง่าย ตอนปอกมีกลิ่นหอมเฉพาะ ซึ่งมีความอร่อย แตกต่างจากส้มพันธุ์ดั้งเดิม ด้วยความโดดเด่นนี้ ทำให้เกษตรกรเริ่มหันมาเพาะปลูกส้มในพื้นที่อำเภอเบตงและอำเภอเมืองยะลากันเป็นจำนวนมาก เรียกขานกันปากต่อปากในชื่อ “ส้มโชกุนเบตง”


นอกจากนี้ จังหวัดยะลาได้มีการจัดประกวดการตั้งชื่อให้ส้มพันธุ์นี้ใหม่ว่า “เพชรยะลา” เพื่อแสดงความเป็นเอกลักษณ์ของตัวจังหวัด แต่คนทั่วไปยังคงคุ้นชินกับชื่อ “ส้มโชกุนเบตง” ซึ่งเป็นชื่อที่สร้างชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ปัจจุบันส้มโชกุนเบตงยังคงเป็นของฝากยอดนิยมจากแดนใต้ ที่นักท่องเที่ยวนึกถึงเป็นอับดับแรก นับว่าเป็นสินค้าที่สามารถสร้างชื่อเสียงและรายได้ให้เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดยะลาเป็นอย่างมาก

ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์มีนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก โดยใช้ประโยชน์จากการขึ้นทะเบียน GI เพื่อคุ้มครองสินค้าท้องถิ่นชุมชนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในพื้นที่แหล่งผลิตสินค้าในแต่ละท้องถิ่น สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ตลอดจนส่งเสริมการจัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค และขยายช่องทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้สินค้า GI เป็นสินค้าสำคัญที่ขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power ตามนโยบายของรัฐบาล

ปัจจุบันมีสินค้าที่ขึ้นทะเบียน GI ทั่วประเทศแล้ว 232 สินค้า มูลค่ากว่า 78,000 ล้านบาทต่อปี โดยกระทรวงพาณิชย์ขอเชิญทุกท่านร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการ GI และอุดหนุนสินค้า GI ไทย เพื่อให้กำลังแก่เกษตรกรและผู้ประกอบการที่เพาะปลูกและผลิตสินค้า GI โดยติดตามข้อมูลสินค้า GI รายการต่างๆ และข่าวสารความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องได้ที่ เพจ Facebook : GI Thailand หรือสอบถามเพิ่มเติมโทร.สายด่วนกรมทรัพย์สินทางปัญญา 1368


กำลังโหลดความคิดเห็น