xs
xsm
sm
md
lg

ภาครัฐ-เอกชนเร่งบูม xEV ค่ายรถยนต์จี้รัฐสร้างตลาดใน ปท.เพื่อวางรากฐานอุตฯ ยานยนต์สมัยใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ภาครัฐจับมือเอกชนร่วมขับเคลื่อนไทยสู่ฐานผลิต xEV สู่ตลาดโลก “บีโอไอ” พร้อมสนับสนุนมาตรการใหม่ กระตุ้นการลงทุนยานยนต์ไฟฟ้าต่อเนื่อง ขณะที่ 6 ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่เร่งฟื้นอุตสาหกรรมในประเทศ คว้าโอกาสส่งออก ท่ามกลางความไม่แน่นอนสงครามการค้า พร้อมกระทุ้งรัฐเร่งสร้างตลาดภายในประเทศ เพื่อวางรากฐานอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ร่วมกับสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย และบริษัท อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย เปิดงานนิทรรศการแสดงชิ้นส่วนอุตสาหกรรมระดับานาชาติ “SUBCON Thailand 2025” ครั้งที่ 19 อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ณ ไบเทค กรุงเทพฯ โดยมีบริษัทในประเทศและต่างประเทศกว่า 500 บริษัท จาก 13 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวเปิดการสัมมนา “BOI SYMPOSIUM: Shaping the Future of xEV in Thailand” ว่า อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย มีผู้ผลิตชิ้นส่วนที่อยู่ใน Supply Chain กว่า 2,000 บริษัท และมีการจ้างงานกว่า 9 แสนคน โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2565-2567) ความนิยมในรถยนต์ xEV ไม่ว่าจะเป็น BEV, PHEV และ HEV ได้เติบโตอย่างรวดเร็ว จากยอดจดทะเบียนรถยนต์ xEV 84,500 คัน ในปี 2565 เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเป็น 206,000 คัน ในปี 2567 โดยในส่วนของการลงทุน ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีการขอรับส่งเสริมการลงทุนในการผลิตรถยนต์ xEV และชิ้นส่วน จำนวน 644 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 280,000 ล้านบาท


ภูมิทัศน์การค้าและการลงทุนโลกที่มีความไม่แน่นอนสูง ได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่างๆ และห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์สมัยใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนต้องปรับตัวครั้งใหญ่ โดยรัฐบาลไทยและบีโอไอได้ออกมาตรการสนับสนุนอย่างรอบด้าน สำหรับผู้ประกอบการทั้งรายใหม่และรายเดิม เช่น มาตรการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน โดยส่งเสริมให้ปรับเปลี่ยนเครื่องจักร หรือนำระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต รวมทั้งการพัฒนาบุคลากร มาตรการส่งเสริมการร่วมทุน ระหว่างผู้ผลิตชิ้นส่วนต่างประเทศกับผู้ผลิตไทย เพื่อให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ มาตรการลดภาษีสรรพสามิตสำหรับ HEV, MHEV และ PHEV เพื่อช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน ให้แข็งแกร่งและสามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์สมัยใหม่หรือ xEV และคว้าโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้

“อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์สมัยใหม่ที่มีเทคโนโลยีหลากหลาย ซึ่งรัฐบาลและบีโอไอได้ออกมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการในทุกเทคโนโลยี เพื่อช่วยให้การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ประสบความสำเร็จ และสามารถเสริมความแข็งแกร่งของไทยในการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ของภูมิภาค นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมผู้ผลิตชิ้นส่วนไทย โดยเฉพาะ SMEs ให้มีบทบาทมากขึ้นใน Supply Chain ระดับโลก ผ่านมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่ออกแบบมาเพื่อผู้ประกอบการไทย รวมถึงการจัดกิจกรรมเชื่อมโยงผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยกับบริษัทรถยนต์ระดับโลก เพื่อนำไปสู่การจัดซื้อชิ้นส่วนในประเทศ การถ่ายทอดเทคโนโลยี หรือการร่วมทุนกันในอนาคต” นายนฤตม์กล่าว


ด้านเวที “BOI SYMPOSIUM 2025: “Shaping the Future of xEV in Thailand: Opportunities for Innovation and Growth” มีค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ 6 ราย จากญี่ปุ่น จีน และยุโรป ได้แก่ โตโยต้า, ฮอนด้า, เอ็มจี, ฉางอาน, เมอร์เซเดส-เบนซ์ และบีเอ็มดับเบิลยู ขึ้นเวทีเสวนา ร่วมแสดงวิสัยทัศน์และมุมมองต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่และผู้ประกอบการในห่วงโซ่อุปทาน

นายมาร์ทิน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทเชื่อว่าทิศทางในอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ (future mobility) จะมุ่งสู่พลังงานไฟฟ้า ดิจิทัล และความยั่งยืน ดังนั้น เมอร์เซเดส-เบนซ์ ไม่เพียงแต่นำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) ครบทุกประเภท และมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อระหว่างรถยนต์ไฟฟ้ากับรถยนต์สันดาปภายใน และช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้าร้อยละ 100 ได้ โดยมีแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สถานีชาร์จและบริการหลังการขาย ซึ่งถือเป็นความท้าทายสำหรับ Supply Chain ในประเทศไทย

โดยบริษัทพร้อมร่วมมือในเชิงกลยุทธ์กับพันธมิตร เน้นการพัฒนาอย่างยืดหยุ่น รองรับการเปลี่ยนผ่านในอนาคตอย่างยั่งยืน โดยอยากให้ภาครัฐปรับเงื่อนไขในการใช้ชิ้นส่วนในประเทศให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับผู้ประกอบการที่เป็น Small Volume พร้อมเร่งเจรจา FTA ไทย-อียู เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าและการส่งออกให้มากขึ้น


นายเรเน่ แกร์ฮาร์ด ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคต คือเทคโนโลยีดิจิทัลและความยั่งยืน ซึ่งในปี 2025 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป กำลังมีเป้าหมายสำคัญด้วยการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้ารวมกว่า 1.5 ล้านคันทั่วโลก และเตรียมเปิดตัว “Neue Klasse” ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูเจเนอเรชั่นใหม่ที่เน้นเทคโนโลยีดิจิทัล พลังงานไฟฟ้า และเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยจับมือกับซัพพลายเออร์ เพื่อพัฒนาระบบดิจิทัล โลจิสติกส์ และไอที ซึ่งเป็นกลไกหลักในการรับมือกับความผันผวนของการค้าโลกที่เกิดขึ้น และทำให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

นายโคจิ อิวานามิ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ฮอนด้ามีวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ HEV และ BEV อย่างต่อเนื่อง และพร้อมเปิดตัว Honda 0 Series รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่สู่ตลาดโลกในปี 2026 สำหรับประเทศไทยซึ่งเป็นฐานการผลิตที่สำคัญนั้น ฮอนด้าจะช่วยผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมและระบบนิเวศของ xEV พร้อมให้ความร่วมมือและสนับสนุนรัฐบาลในการพัฒนาผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศไทยให้พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสร้างการเติบโตไปด้วยกัน

นายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันแนวโน้มตลาด BEV ทั่วโลกเริ่มชะลอตัวลง ในขณะที่ตลาด HEV โตขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดในอาเซียน ซึ่งเห็นได้ชัดในประเทศไทย ทางโตโยต้าให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยี HEV แต่ในขณะเดียวกันก็เตรียมแผนผลิตรถกระบะไฟฟ้าในประเทศไทยปลายปีนี้ ซึ่งรถกระบะ และอีโคคาร์ ถือเป็นโปรดักต์แชมเปี้ยนของไทยที่ยังต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การจะผลักดันให้ไทยเป็นฐานผลิตที่แข็งแกร่งของ xEV จะต้องได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในการสร้างตลาดภายในประเทศให้แข็งแกร่ง รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งตลาดในประเทศและส่งออก ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ

นายสุโรจน์ แสงสนิท รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี (MG) กล่าวว่า ตลาด xEV ไทยขยายตัวรวดเร็วและมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเป็นการเปลี่ยนผ่านอย่างค่อยเป็นค่อยไป ภายใต้นโยบายมุ่งสู่ความยั่งยืน โดย MG พร้อมยกระดับซัพพลายเชนในประเทศ ผ่านความร่วมมือและถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันของอุตสาหกรรมไทย และผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางการผลิตและส่งออก xEV ของอาเซียน

นายกวน ซิน รองประธาน บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซ้าท์อีส เอเชีย จำกัด กล่าวว่า แนวโน้ม xEV ในตลาดโลกยังเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดว่าการใช้ xEV ทั่วโลกจะมีสัดส่วนร้อยละ 40 ของการใช้รถยนต์ทั้งหมดในปี 2028 ซึ่งรวมถึงตลาดในประเทศไทยด้วย

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าทั้ง BEV, HEV และ PHEV ยังมีทิศทางเติบโต และได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากภาครัฐ ฉางอานมีความมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆ โดยเฉพาะในโรงงานที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นโรงงานในต่างประเทศแห่งแรกของฉางอาน และมีเป้าหมายในการพัฒนาบุคลากร ถ่ายทอดเทคโนโลยี การใช้แรงงาน และชิ้นส่วนในประเทศเพื่อยกระดับไทยให้เป็นฐานผลิตที่แข็งแกร่งของฉางอานในอนาคต

สำหรับการจัดงาน “SUBCON Thailand 2025” ระหว่างวันที่ 14-17 พฤษภาคม 2568 ณ ไบเทค กรุงเทพฯ คาดว่าจะมีการจับคู่ธุรกิจกว่า 8,000 คู่ เกิดมูลค่าซื้อขายกว่า 20,000 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น