รฟท.เผยผู้เชี่ยวชาญ "ยูเนสโก" ส่งหนังสือทางการแล้ว ปรับแบบ "สถานีอยุธยา" เสร็จเรียบร้อย เร่งหารือหน่วยงานเกี่ยวข้องวางแนวทางก่อสร้างและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานควบคู่กับการอนุรักษ์มรดกโลก "รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน" สัญญาช่วงบ้านโพ-พระแก้ว
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า การรถไฟฯ ได้รับรายงานความคิดเห็นแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์นานาชาติเพื่อการศึกษาการสงวนรักษาและการบูรณะมรดกทางวัฒนธรรม (ICCROM) และผู้เชี่ยวชาญจากสภาการโบราณสถานระหว่างประเทศ (ICOMOS) ซึ่งเป็นผู้แทนองค์กรที่ปรึกษาของคณะกรรมการมรดกโลก ภายหลังได้ลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพื่อสำรวจพื้นที่จริง และรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับรายงานการประเมินผลกระทบทางทรัพย์สินและวัฒนธรรมต่อแหล่งมรดกโลก นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา (HIA) กรณีโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงสถานีอยุธยา เมื่อวันที่ 19-22 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งมีข้อสรุปสำคัญ ดังนี้
1. การเปลี่ยนแปลงเส้นทางรถไฟความเร็วสูงที่ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไม่สามารถดำเนินการได้
2. แบบก่อสร้างสถานี และระดับความสูงของรางรถไฟ ควรมีการปรับลดลง เพื่อให้โครงสร้างของรถไฟและสถานีจะไม่สามารถมองเห็นได้จากภายในพื้นที่มรดกโลก
3. ควรมีการจัดทำแผนร่วมกันระหว่างกรมการขนส่งทางราง (ขร.) กรมศิลปกร หน่วยงานด้านการท่องเที่ยว และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันหารือแนวทางการลดผลกระทบทางอ้อม และผลกระทบสะสมในระยะยาว ทั้งด้านการวางผังเมืองบริเวณโดยรอบสถานี เพื่อพัฒนาผังเมืองแบบบูรณาการ และการวางแผนโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับด้านการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง รวมถึงการบริหารจัดการการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยว อาทิ การจำกัดจำนวนคนที่เข้าเยี่ยมชมสถานที่ หรือเพิ่มการควบคุมหากมีผลกระทบทางกายภาพหรือเชิงประจักษ์ และด้านการวางแผนสิ่งอำนวยความสะดวกและการเดินทาง โดยให้เชื่อมโยงสถานีรถไฟความเร็วสูงกับแหล่งมรดกโลกและโบราณสถานที่สำคัญระดับชาติ
นอกจากนี้ คณะผู้เชี่ยวชาญฯ ยังเสนอแนวทางเพิ่มเติมเกี่ยวกับด้านการออกแบบ โดยแนะนำให้ออกแบบอาคารสถานีให้เหมาะสมกับภูมิทัศน์โดยรอบ ทั้งในด้านความสูง ขนาด และการก่อสร้างส่วนทึบของอาคารให้เหมาะสม เช่น ผนัง และเพดาน เพื่อลดข้อจำกัด หรือผลกระทบต่อทัศนียภาพที่อาจเกิดขึ้นต่อแหล่งมรดกโลกหรือโบราณสถาน รวมทั้งยังเสนอให้มีการปลูกต้นไม้ในสวนสาธารณะพื้นที่ 2 และ 3 และปลูกต้นไม้ทดแทนในส่วนที่ต้องรื้อถอนจากการก่อสร้าง เพื่อฟื้นฟูภูมิทัศน์โดยรอบให้กลับคืนสู่ความกลมกลืนตามข้อเสนอในรายงานการประเมินผลกระทบต่อมรดกทางวัฒนธรรม (HIA)
นายวีริศกล่าวว่า การรถไฟฯ ได้ปรับรูปแบบตามที่ผู้เชี่ยวชาญฯ ได้เสนอแนะเรียบร้อยแล้ว และพร้อมร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เพื่อสร้างความเข้าใจในระดับนานาชาติ และยืนยันจุดยืนของไทยในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานควบคู่กับการอนุรักษ์มรดกโลกอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
“โครงการรถไฟความเร็วสูงต้องเดินหน้าไปพร้อมกับความรับผิดชอบต่อมรดกทางวัฒนธรรม การรถไฟฯ ยินดีปรับรูปแบบการก่อสร้างตามข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญ เพื่อยกระดับระบบขนส่งของไทย เชื่อมโยงเมืองหลักกับภูมิภาค เสริมศักยภาพการแข่งขัน และกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาว ทั้งด้านการท่องเที่ยว การลงทุน และการกระจายรายได้สู่ภูมิภาค” นายวีริศกล่าว