สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเผยส่งออกข้าว 3 เดือน ปี 68 ทำได้แค่ 2.1 ล้านตัน ลดลง 30% ได้รับผลกระทบอินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาว อินโดนีเซียหยุดนำเข้า ส่วนทรัมป์ 2.0 ทำให้สหรัฐฯ มีการเร่งซื้อข้าวไทยไปเก็บสต๊อก แต่ระยะยาว หากภาษีขึ้น ส่งออกกระทบแน่ ยังยืนเป้าปีนี้ 7.5 ล้านตัน รอดูครึ่งปีจะทบทวนหรือไม่
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวไทยในช่วง 3 เดือน ปี 2568 (ม.ค.-มี.ค.) มีปริมาณ 2.1 ล้านตัน ลดลง 30% เนื่องจากอินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาวอีกครั้ง หลังระงับส่งออกในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และยังได้รับผลกระทบจากอินโดนีเซีย ซึ่งผู้นำเข้ารายสำคัญในปีที่ผ่านมา ที่นำเข้าสูงถึง 4 ล้านตัน แต่ช่วงนี้หยุดการนำเข้าข้าวจากไทย เพราะมีผลผลิตในประเทศเพิ่มขึ้น โดยปีนี้ทั้งปีอินโดนีเซียอาจนำเข้าข้าวไม่ถึง 1 ล้านตัน และคาดว่าจะกลับมานำเข้าในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้ปริมาณส่งออกข้าวขาวลดลงถึง 53% แต่ยังดีที่มียอดส่งออกข้าวหอมมะลิไทย และข้าวนึ่งเพิ่มขึ้น
สำหรับนโยบายทรัมป์ 2.0 ยังเป็นประเด็นที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้มีการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากไทยแล้ว 10% จากเดิมภาษีอยู่ที่ 0% โดยการชะลอการเก็บภาษีนำเข้าจากไทยในอัตรา 36% ออกไป 90 วัน ทำให้มีคำสั่งซื้อข้าวไทยเพิ่มมากขึ้น เพื่อเก็บในสต็อก โดยในช่วงไตรมาสแรก มีการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยไปแล้วกว่า 2 แสนตัน ส่วนปีที่ผ่านมา ส่งออกข้าวไปตลาดสหรัฐฯ ปริมาณ 830,000 ตัน เป็นข้าวหอมมะลิไทย 630,000 ตัน และข้าวหอมไทย 120,000 ตัน โดยแต่ละปี มีการส่งออกข้าวหอมมะลิไทย รวม 1.3-1.4 ล้านตัน
ทั้งนี้ ในระยะต่อไป หากไทยถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 25% ราคาส่งออกข้าวหอมมะลิไทยปัจจุบันอยู่ที่ 1,000 เหรียญสหรัฐต่อตัน ราคาจะเพิ่มเป็น 1,250 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งไม่แน่ใจว่าผู้บริโภคสหรัฐฯ จะรับราคาที่เพิ่มได้หรือไม่ ซึ่งต้องรอดูผลตอบรับต่อไป
อย่างไรก็ตาม ช่วงไตรมาสแรก เวียดนามส่งออกข้าว 2.3 ล้านตัน มากกว่าไทย และหากไทยสูญเสียตลาดข้าวหอมมะลิไทยในสหรัฐฯ ก็มีโอกาสที่ไทยอาจจะสูญเสียอันดับการส่งออกจากเบอร์ 2 เป็นเบอร์ 3 ได้ ส่วนเป้าหมายส่งออกข้าวทั้งปี สมาคมฯ ยังยืนยันที่ 7.5 ล้านตัน โดยจะมีการทบทวนเป้าหมายอีกครั้งในช่วงกลางปีนี้ สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่จะมีผลกระทบต่อการส่งออกข้าว คือ ค่าเงินบาที่มีความผันผวน โดยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาแข็งค่าขึ้นมาที่ 33.1 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 34.8 บาท ซึ่งเงินบาทที่แข็งค่า ยิ่งส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดโลก ปัจจุบันราคาส่งออกข้าวขาว 15% ราคา FOB อยู่ที่ 400-405 เหรียญสหรัฐต่อตัน เวียดนาม 385 เหรียญสหรัฐต่อตัน และอินเดีย 365 เหรียญสหรัฐต่อตัน
ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า นอกจากนโยบายขึ้นกำแพงภาษีของสหรัฐฯ ยังมีสิ่งที่น่าเป็นห่วง คืออาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องระบบการขนส่งและโลจิสติกส์โลก เพราะอเมริกาประกาศว่าจะขึ้นภาษีสินค้าที่ขนส่งโดยเรือที่ต่อจากจีน ซึ่งอาจจะกระทบทำให้ราคาส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นอีก 6 เหรียญสหรัฐต่อตัน
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ยังมั่นใจการส่งออกข้าวไทยจะยังขยายตัวได้ดี โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายการส่งออกไว้ที่ 7.5 ล้านตัน เพราะมีแผนเปิดตลาดข้าวไทยอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดจัดคณะไปขายข้าวที่แอฟริกาใต้ได้สูงถึง 4 แสนตัน และจะยังเดินหน้าเจาะตลาดประเทศเป้าหมายต่อไป ส่วนการส่งออกในช่วง 3 เดือนปี 2568 ที่ลดลง เป็นผลจากการที่อินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาว และลดราคาค่อนข้างมาก ทำให้กระทบต่อการส่งออกข้าวไทย
