xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” จัดชุดเฉพาะกิจปูพรมตรวจสอบการซื้อขาย “ยางพารา-ปาล์มน้ำมัน”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมการค้าภายในจัดชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่แหล่งปลูกยางพารา-ปาล์มน้ำมันตรวจสอบการซื้อขายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบเกษตรกร ย้ำหากตรวจสอบพบดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายทันที เผยสถานการณ์ราคายางพาราล่าสุดปรับตัวลดลง ส่วนปาล์มน้ำมันยังทรงตัว แนะเกษตรกรหากพบความผิดปกติในการซื้อขาย ถูกเอาเปรียบ ขอให้แจ้งทางการทันที

นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้มีการจัดชุดเฉพาะกิจปูพรมลงพื้นที่ติดตามการรับซื้อสินค้าเกษตร โดยเฉพาะยางพาราและปาล์มน้ำมันในพื้นที่แหล่งปลูกทั่วประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้พ่อค้ารายใหญ่กดราคารับซื้อกับเกษตรกร โดยชุดที่ 1 ลงพื้นที่จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราชแล้ว ขณะนี้ชุดที่ 2 กำลังลงพื้นที่จังหวัดกระบี่และตรัง และยังมีชุดตรวจจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัด (ชตว.สาขา) ที่ลงพื้นที่ครอบคลุมจังหวัดสุราษฎร์ธานี (นครศรีธรรมราช), ชุมพร (ระนอง), เพชรบุรี (ประจวบคีรีขันธ์), สงขลา (พัทลุง, สตูล), กระบี่ (ตรัง), ยะลา (ปัตตานี, นราธิวาส) และภูเก็ต (พังงา) โดยกำหนดระยะเวลาดำเนินการจนถึงสิ้นเดือน เม.ย. 2568

“การลงพื้นที่ดังกล่าวเนื่องจากยางพาราและปาล์มน้ำมันเป็นพืชเศรษฐกิจหลัก มีบทบาทสำคัญต่อรายได้ของเกษตรกรไทยจำนวนมาก การซื้อขายสินค้าเกษตรดังกล่าวเป็นการซื้อขายระหว่างเกษตรกรกับพ่อค้ารายใหญ่ ซึ่งการซื้อขายที่ไม่เป็นธรรมจะทำให้เกษตรกรเสียเปรียบเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่สินค้าเกษตรมีปริมาณมากและมีพ่อค้ารับซื้อน้อยราย กรมจึงได้เข้าไปกำกับดูแลการซื้อขาย ทั้งการปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ การใช้เครื่องชั่งน้ำหนักที่ถูกต้อง ซึ่งจะตรวจสอบทุกจุดรับซื้อ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบเกษตรกร”


ทั้งนี้ ยางพาราและปาล์น้ำมันเป็นสินค้าควบคุมตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) และมีมาตรการอย่างเข้มงวดให้ผู้ประกอบการรับซื้อดำเนินการตามกฎหมาย เช่น ต้องมีการแจ้งปริมาณการครอบครอง ปริมาณการรับซื้อ การจำหน่าย การใช้ ปริมาณคงเหลือ และสถานที่เก็บ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบได้ทุกเวลา เพื่อเป็นการควบคุมไม่ให้เกิดการลักลอบขนย้าย หรือการกักตุนสินค้า และต้องติดป้ายแสดงราคาที่ชัดเจน เพื่อให้เกษตรกรตรวจสอบได้ รวมทั้งต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ในการกำกับดูแลการใช้เครื่องชั่ง โดยเฉพาะเครื่องชั่งสินค้าเกษตรให้มีความเที่ยงตรงและได้มาตรฐาน เพื่อไม่ให้เกษตรกรเสียเปรียบในเรื่องของน้ำหนักสินค้าเกษตร

สำหรับราคายางพารา ปัจจุบันมีการปรับตัวลดลง ส่วนปาล์มน้ำมันราคายังคงทรงตัว โดยราคาผลปาล์มเฉลี่ยอยู่ที่ 5.60 บาทต่อกิโลกรัม อยู่ในช่วงระหว่าง 5.30-5.90 บาทต่อกิโลกรัม ราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) อยู่ที่ 33.35 บาทต่อกิโลกรัม และราคาของมาเลเซียอยู่ที่ 32.66 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนสต๊อกน้ำมันปาล์มในประเทศอยู่ที่ 242,000 ตัน สูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติเล็กน้อยที่ 234,000 ตัน โดยสาเหตุที่ราคารับซื้อปาล์มน้ำมันในช่วงนี้ยังไม่ปรับตัวสูงขึ้นมาจากผลกระทบของช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ ประกอบกับโรงงานสกัดบางส่วนใช้ช่วงเวลาดังกล่าวในการปิดปรับปรุงระบบการผลิต ส่งผลให้ปริมาณการรับซื้อผลปาล์มลดลงชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม กรมขอฝากถึงผู้ประกอบการรับซื้อสินค้าเกษตร ขอให้มีการรับซื้อในราคาที่เป็นธรรมแก่เกษตรกร ใช้เครื่องชั่งที่มีความเที่ยงตรง หากมีการพบการฝ่าฝืนกฎหมาย เช่น การไม่ปิดป้ายแสดงราคา การกักตุน หรือจำหน่ายสินค้าโดยไม่เป็นธรรม หรือมีการดัดแปลงเครื่องชั่ง กรมจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดโดยทันที และขอฝากประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องเกษตรกร หากพบเห็นพฤติกรรมไม่โปร่งใสหรือสงสัยว่าถูกเอาเปรียบ สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ศูนย์ชั่งตวงวัดและสำนักงานสาขาชั่งตวงวัดทั่วประเทศ หรือสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือ Line@MR.DIT” หรือที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ


กำลังโหลดความคิดเห็น