xs
xsm
sm
md
lg

บางจากสยบข่าวลือ! ยันโครงการ SAF ผลิต Q2 นี้ ลั่นไม่ขาดทุนยันวัตถุดิบ-ลูกค้าพร้อม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บางจากฯ ลั่นโครงการ SAF พร้อมผลิตในไตรมาส 2/68 ยันมีวัตถุดิบน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว เพียงพอและมีตลาดรองรับ มั่นใจโครงการ SAF ไม่ขาดทุน ชี้หลังปี 2573 ความต้องการใช้ SAFพุ่งจนขาดตลาด

โดยถือเป็นผู้บุกเบิกการผลิต Neat SAF 100% รายแรกของประเทศไทย ด้วยการใช้วัตถุดิบจากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว (Used Cooking Oil: UCO) และวัตถุดิบทางเลือก (ของเหลือทิ้งจากภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการอื่นๆ) ภายใต้ระบบที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากลจาก International Sustainability and Carbon Certification (ISCC)
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCPเปิดเผยว่าโครงการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel: SAF) ถือเป็นก้าวสำคัญของบางจากฯ จากผู้นำด้านพลังงานทดแทนสู่ผู้นำพลังงานแห่งอนาคต ด้วยการใช้ทรัพยากรและโครงสร้างพื้นฐานของ
โรงกลั่นเดิมโดยนำไฮโดรเจนที่ได้จากกระบวนการกลั่นน้ำมัน มาใช้ในโครงการSAF ทำให้ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม ช่วยลดต้นทุนถึง 5พันล้านบาท ทำให้ต้นทุนโครงการผลิตSAFแข่งขันได้
ปัจจุบันโครงการSAF มีความก้าวหน้าด้านการก่อสร้างแล้วกว่า 96% และอยู่ระหว่างการเตรียมเดินเครื่องในไตรมาส 2 ของปี 2568 โดยบริษัทมีแผนเริ่มต้นจากการทดสอบสมรรถนะของโรงงาน (Plant Performance Test Run) และจะทยอยเพิ่มระดับการผลิต (Ramp-up) ทำให้ไตรมาส3 นี้พร้อมผลิตเชิงพาณิชย์และรับรู้รายได้


อย่างไรก็ดี แม้ว่าหลายประเทศยังไม่มีนโยบายบังคับใช้ SAF ที่ชัดเจน โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย แต่เชื่อว่าหลังจากปี2573 ความต้องการใช้น้ำมัน SAF โลกเติบโตอย่างต่อเนื่อง จนเกิดภาวะการขาดแคลน เป็นผลมาจากประเทศทั่วโลกมีข้อกำหนดบังคับใช้น้ำมันSAFในสายการบิน เพื่อลดคาร์บอนในภาคการบิน ขณะนี้สหภาพยุโรป ได้เริ่มกำหนดเป้าหมายเติมSAF ขั้นต่ำที่ 2% ภายในปี 2568เป็นต้น

"บริษัทมั่นใจว่าโครงการ SAF ไม่ขาดทุน หากขาดทุนก็จะไม่ทำ ขณะนี้เรามีวัตถุดิบคือน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว (UCO)ในสต็อกอยู่แล้ว 25ล้านลิตร และมีซัพพลายเออร์รายใหญ่อยู่ 4-5 ราย และรายเล็ก 4-5 ราย รวมเป็น 10 ราย รวมแล้วมีวัตถุดิบไม่ต่ำกว่า 50% โดยที่เหลือสามารถจัดซื้อจากต่างประเทศรวมทั้งสามารถใช้วัตถุดิบอื่นๆเช่นไขมันสัตว์ เป็นต้น ส่วนลูกค้า ก็มีการทำสัญญาซื้อขายSAF คิดเป็น60%ของกำลังผลิต โดยบางจากฯ ได้ลงนามในสัญญาซื้อขาย SAF กับลูกค้าหลักแล้ว และรับจ้างการกลั่น (Tolling) จากลูกค้าต่างประเทศที่จัดหาวัตถุดิบน้ำมันพืชใช้แล้วให้บางจากกลั่นด้วย อีกทั้งอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรเพิ่มเติม ดังนั้นโครงการSAFมีจุดคุ้มทุนได้ภายใน 3-5 ปี แต่หากหลายประเทศเลื่อนการใช้SAFจุดคุ้มทุนเลื่อนไปเป็น 5-7 ปี "

ปัจจุบันราคา SAF อยู่ที่ 40-45บาทต่อลิตร แต่เชื่อว่าหลังปี พ.ศ. 2573 ราคาSAF ตะปรับเพิ่มสูงขึ้น หลังSAFขาดแคลน

นายชัยวัฒน์ กล่าวถึงกรณีบริษัท อัลฟา ชาร์เตอร์ด เอนเนอร์จี จำกัด เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นBCP โดยการซื้อบิ๊กล็อตจาก Capital Asia Investments Pte. Ltd. เมื่อวันที่ 31 มี.ค.68 จำนวน 43,381,200 หุ้น หรือ 3.1505% ส่งผลให้ บริษัท อัลฟา ชาร์เตอร์ด เอนเนอร์จี จำกัดถือหุ้น BCP รวมเป็น 161,057,515 หุ้น หรือ 11.6969% เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 4 รองจากกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง 19.84%, สำนักงานประกันสังคม 15.11% และ บริษัทไทยเอ็นวีดีอาร์ 13.87%

ขณะนี้บางจากฯยังไม่ได้รับการติดต่อจากอัลฟา ชาร์เตอร์ด เอนเนอร์จี ส่วนจะตั้งกรรมการนั่งในบอร์ดบางจากฯหรือไม่นั้น คงต้องรอดูต่อไป ทั้งนี้ บางจากฯจัดการประชุมแผนยุทธศาสตร์ในช่วงไตรมาส3ทุกปี ก็น่าจะมีการหารือในช่วงเวลานั้น ส่วนประกันสังคมยังยืนยันถือหุ้นบางจากฯอยู่

โครงการ SAFพร้อมดำเนินงานโครงการ ทั้งในด้านวัตถุดิบ เทคโนโลยี และตลาดรองรับ ถือเป็นผู้บุกเบิกการผลิต Neat SAF 100% รายแรกของประเทศไทย ด้วยการใช้วัตถุดิบจากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว และวัตถุดิบทางเลือก (ของเหลือทิ้งจากภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการอื่นๆ)

หน่วยผลิต SAF ของกลุ่มบริษัทบางจาก ดำเนินการโดยบริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด จะมีพิธีเปิดในวันที่ 25 เมษายน 2568 ณ โรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง ซึ่งเดิมบริษัท ธนโชคออยล์ฯ ซึ่งเป็นผู้จัดหาน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วรายใหญ่ร่วมถือหุ้น แต่ล่าสุดได้ถอนตัวออกไป โดยกลุ่มบางจากได้เร่งสร้าง Ecosystem มนการจัดหาน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วจากซัพพลายเออร์รายใหญ่ในประเทศ อย่าง CPF ที่มีดำเนินธุรกิจแปรรูปอาหารและร้านอาหารทั้งในและต่างประเทศ


กำลังโหลดความคิดเห็น