กทพ.แจ้งความแล้ว!เอาผิด”แพ่ง-อาญา”เหตุคานทางด่วน”พระราม 3 - ดาวคะนอง”ถล่ม ส่วนผลสอบข้อเท็จจริงสรุปใน 20 วัน

“คมนาคม-กทพ.”ลุยแจ้งความ ดำเนินคดีแพ่ง-อาญา เหตุคาน “ทางด่วนพระราม 3 - ดาวคะนอง” ทรุดตัว ที่ สน.บางมด พร้อมเร่งสอบข้อเท็จจริง คาดสรุปใน 20 วัน ร่วมกับ วสท. ตั้งทีม“Safety Auditor” สแกนความปลอดภัยทุกโปรเจกต์ เพื่อปลอดภัยสูงสุด ยันสงกรานต์ 68 หยุดก่อสร้าง100%

นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม ในฐานะโฆษกกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วันนี้ (21 มีนาคม 2568) ได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจนครบาลบางมด (สน.บางมด) ร่วมกับนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เพื่อร้องทุกข์ดำเนินคดี ทั้งแพ่งและอาญากับผู้กระทำ หรืองดเว้นการกระทำ หรือกระทำโดยปราศจากความระมัดระวัง หรือกระทำโดยไม่ได้ปฏิบัติตามหลักวิศวกรรม จากกรณีเหตุคานทรุดตัวบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษดาวคะนอง ของโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญาที่ 3 งานสร้างทางยกระดับจาก รพ.บางปะกอก 9-ด่านดาวคะนอง เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน บาดเจ็บกว่า 20 คน และมีทรัพย์สินเสียหาย โดยมี พ.ต.อ. สนชัย พูนผล ผู้กำกับ สน.บางมด เป็นผู้รับแจ้งความ

ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์แล้วพบว่า ผู้กระทำผิดจะมีโทษสูงสุดต่อความผิดฐานประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท ขณะที่โทษสูงสุดต่อความผิดฐานประมาททำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งยังไม่รวมถึงโทษทางแพ่งในการรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ซึ่งจะทำการตรวจสอบหาผู้กระทำผิดในกรณีดังกล่าวอย่างเร็วที่สุด


ส่วนความคืบหน้าในการตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น ขณะนี้ กทพ. ได้แต่งตั้งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ร่วมดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยปัจจุบันได้เริ่มดำเนินการตรวจสอบ ทั้งในส่วนขอบผู้รับเหมา และผู้ควบคุมงานแล้ว อย่างไรก็ตาม คาดว่า จะทราบถึงผลสรุปการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด รวมถึงมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นภายใน 20 วันนับจากวันนี้

นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคม ยังได้ดำเนินการจัดตั้งกรรมการ “Safety Auditor” เพื่อกำกับตรวจสอบความปลอดภัยทั้งระบบในทุกโครงการและทุกโครงสร้างพื้นฐานของกระทรวงฯ พร้อมทั้งให้ความเห็นและให้ความรู้กับผู้ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการก่อสร้าง ทั้งนี้ กรรมการชุดดังกล่าว จะทำงานร่วมกับวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) และสภาวิศวกร โดย วสท. และสภาฯ จะจัดส่งผู้เชี่ยวชาญมาร่วมดำเนินการตรวจสอบด้วย ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด

“ผมขอยืนยันว่า ทุกกระบวนการและทุกขั้นตอนของการดำเนินการก่อสร้างนั้น ได้เน้นย้ำและให้ความสำคัญในมาตรการด้านความปลอดภัยสูงสุด โดยกระทรวงคมนาคมและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่อง เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติซ้ำอีกเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัย และความสะดวกในการเดินทางของพี่น้องประชาชน” นายกฤชนนท์ กล่าว


ด้านนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่า กทพ. กล่าวว่า ตามที่ กทพ. ได้เปิดให้บริการด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษดาวคะนอง ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ในทิศทางขาเข้าเมือง) เปิดได้ตามปกติแล้วตั้งแต่เมื่อเวลา 06.00 น. เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน ทั้งนี้ กทพ. ยังมีความจำเป็นจะต้องปิดให้บริการด่านฯ ดาวคะนอง ตั้งแต่เวลา 21.00 - 05.00 น. ของทุกวัน จนกว่าโครงการฯ จะดำเนินการแล้วเสร็จ

ทั้งนี้ ได้เร่งรัดการดำเนินการซ่อมแซมทางพิเศษเฉลิมหมานคร ช่องทางจราจรช่วงที่ขาด (ทิศทางขาออก) โดยย้ำผู้รับเหมา และผู้ที่เกี่ยวข้องถึงมาตรการความปลอดภัยในการทำงานเป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ที่คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางเป็นจำนวนมากนั้น กทพ. ได้แจ้งไปยังผู้รับเหมาให้หยุดการก่อสร้าง 100% ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่ออำนวย ความสะดวกในการเดินทางของประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยสูงสุด

สำหรับ โครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญาที่ 3 เป็นงานก่อสร้างทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจรคร่อมตามแนวทางพิเศษเฉลิมมหานครช่วงดาวคะนอง-สุขสวัสดิ์-ราษฎร์บูรณะ
โครงสร้างทางพิเศษเป็นโครงสร้างคานคอนกรีตอัดแรงรูปกล่องสำเร็จรูป ช่วงจากโรงพยาบาลบางปะกอก 9 - ด่านดาวคะนอง - เชิงลาดสะพานพระราม 9 (กม. 11+691-กม.16+695 ) ระยะทาง 5 กม. มีกิจการร่วมค้า ไอทีดี-วีซีบี กิจการร่วมค้า
ยูเอ็น-ซีซี (ประกอบด้วย บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ร่วมกับ บจ.วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง) เป็นผู้ก่อสร้าง วงเงินโครงการ 7,359.3 ล้านบาท