- • เยี่ยมชมแหล่งผลิตปลาทูแม่กลองและส้มโอขาวใหญ่
- • วัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร
- • จะพัฒนาบรรจุภัณฑ์และช่องทางการตลาด
- • มีแผนผลักดันการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ
- • เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน
กรมทรัพย์สินทางปัญญาลงพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม เยี่ยมชมแหล่งผลิตปลาทูแม่กลองและส้มโอขาวใหญ่สมุทรสงคราม หาทางช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้า พัฒนาบรรจุภัณฑ์ ขยายช่องทางการตลาดและผลักดันส่งออกไปต่างประเทศ ช่วยเพิ่มรายได้ชุมชน
น.ส.นุสรา กาญจนกูล อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมได้ลงพื้นที่ จ.สมุทรสงครามเพื่อเยี่ยมชมแหล่งผลิตปลาทูแม่กลองและส้มโอขาวใหญ่สมุทรสงคราม ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) และได้ใช้โอกาสนี้หารือกับผู้ผลิตและผู้ประกอบการสินค้าทั้ง 2 รายการเกี่ยวกับการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ทั้งการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ การขยายช่องทางการตลาด และการส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศในอนาคต เพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร เพราะการเพิ่มโอกาสในการขายสินค้า ไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจของชุมชนในแต่ละจังหวัดให้แข็งแกร่งและยั่งยืน แต่ยังเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นและความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าของไทยด้วย
สำหรับปลาทูแม่กลอง เป็นสินค้าที่รู้จักกันมายาวนานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ ถือเป็นสุดยอดปลาในอ่าวไทยตอนบน เนื่องจากปลาทูแม่กลองได้รับสารอาหารที่มีความสมบูรณ์จากปากแม่น้ำแม่กลอง และด้วยการสร้างไขมันขึ้นมาในช่วงที่น้ำทะเลมีอุณหภูมิลดลงในช่วงเดือน พ.ย.-ก.พ. จึงทำให้ปลาทูแม่กลองมีเนื้อนุ่ม แน่น หอมมัน และนิยมบรรจุในเข่ง จนกลายเป็นที่มาของ “ปลาทูแม่กลอง หน้างอ คอหัก”
ส่วนส้มโอขาวใหญ่สมุทรสงคราม เนื่องด้วย จ.สมุทรสงครามได้ชื่อว่าเป็นเมืองสามน้ำ มีการทับถมของตะกอนดิน มีธาตุฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมสูง ประกอบกับภูมิอากาศเป็นแบบฝนเมืองร้อน จึงเหมาะแก่การปลูกส้มโอขาวใหญ่สมุทรสงคราม ทำให้มีรสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย มีน้ำมาก แต่ไม่แฉะ จึงเป็นที่นิยมของผู้บริโภค
ทั้งนี้ จ.สมุทรสงครามมีสินค้า GI ที่ขึ้นทะเบียนแล้ว 5 สินค้า ได้แก่ ส้มโอขาวใหญ่สมุทรสงคราม ลิ้นจี่ค่อมสมุทรสงคราม พริกบางช้าง ปลาทูแม่กลอง และเกลือสมุทรแม่กลอง สร้างรายได้ทางเศรษฐกิจให้จังหวัดกว่า 1,200 ล้านบาทต่อปี และทั้งประเทศมีสินค้าขึ้นทะเบียนจีไอแล้ว 224 สินค้า สร้างมูลค่าให้เศรษฐกิจชุมชนกว่า 77,000 ล้านบาทต่อปี
เกษตรกรหรือชุมชนท้องถิ่นในจังหวัดใดที่ผลิตสินค้าชุมชนที่มีอัตลักษณ์และเชื่อมโยงกับแหล่งภูมิศาสตร์ สามารถนำมาปรึกษาเพื่อขอรับการขึ้นทะเบียน GI ได้ที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน โทร. 1368