- • ตั้งเป้ารายได้โต 20-25% จากกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่ม 1,500 เมกะวัตต์ และส่วนแบ่งกำไร AIS กว่า 3,500 ล้านบาท
- • งบลงทุนปีนี้ 23,000 ล้านบาท เน้นลงทุนพลังงาน
GULF จ่อเทรดบริษัทใหม่ “กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์” ในวันที่ 3 เมษายนนี้ ตั้งเป้ารายได้โต 20-25% มาจากกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่เพิ่มขึ้น 1,500 เมกะวัตต์ และบันทึกส่วนแบ่งกำไรจาก AIS กว่า 3,500 ล้านบาท พร้อมอัดงบลงทุนปีนี้ 23,000 ล้านบาท เน้นลงทุนพลังงานหมุนเวียน
นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่าความคืบหน้าหลังควบรวมกิจการกับบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH เป็นบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (GULF) ที่จะเริ่มซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 3 เม.ย.เป็นต้นไป
โดยการซื้อขายวันสุดท้ายของ GULF และ INTUCH ในวันที่ 20 มี.ค. 2568 หลังจากนั้น GULF และ INTUCH ระงับการซื้อขาย เพื่อเตรียมเข้าจดทะเบียน NewCo ระหว่างวันที่ 21 มี.ค.-2 เม.ย. 2568 และจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นร่วมของ GULF และ INTUCH ภายในวันที่ 25 มี.ค. 2568 โดยจะมีการประกาศชื่อบริษัทใหม่ พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่
การควบรวมกิจการครั้งนี้ บริษัทใหม่ฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการถือหุ้น ADVANC สัดส่วน 40.44% ประมาณ 3,500 ล้านบาทต่อปี รวมทั้งกระแสเงินสดจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 6,000 ล้านบาทต่อปี และมี D/E ต่ำลงเหลือ 0.8 เท่าจากปัจจุบัน 1.8 เท่า เนื่องจาก INTUCH ไม่มีหนี้สิน
นางสาวยุพาพินกล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการในปี 2568 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 20-25% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากมีกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่เพิ่มขึ้น 1,500 เมกะวัตต์ จะมาจากโครงการหินกอง (HKP) หน่วยผลิตที่ 2 กำลังการผลิตติดตั้ง 770 เมกะวัตต์ ที่จ่ายไฟเชิงพาณิชย์ (COD) ตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน 5 โครงการ และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน 2 โครงการ รวมกำลังการผลิตติดตั้งรวม 597 เมกะวัตต์ ที่มีแผนจะ COD ในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. 2568, โครงการโซลาร์รูฟท็อป ภายใต้ GULF1 เพิ่มอีก 110 เมกะวัตต์ในปีนี้ ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นจาก 15,100 เมกะวัตต์ เพิ่มเป็น 16,577 เมกะวัตต์ในปีนี้
รวมทั้งรับรู้รายได้เต็มปีจากโครงการโซลาร์ฟาร์มและโซลาร์ผสมกับแบตเตอรี่ในประเทศอีกจำนวน 5 โครงการที่ COD ไปเมื่อเดือน ธ.ค. 2567 และปีนี้ยังเป็นปีแรกที่จะรับรู้กำไรเต็มปีของโครงการโรงไฟฟ้ากัลฟ์ ปลวกแดง (GPD) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้า IPP ภายใต้กลุ่ม IPD กำลังการผลิตติดตั้งรวม 2,650 เมกะวัตต์
สำหรับงบลงทุน 5 ปีนี้ (2568-72) บริษัทตั้งงบลงทุนอยู่ที่ 90,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่ลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน 79% ที่เหลือลงทุนในโรงไฟฟ้าก๊าซฯ เทรดดิ้ง LNG โครงสร้างพื้นฐาน ธุรกิจดิจิทัล เช่น ดาต้า เซ็นเตอร์ ส่วนในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ 23,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะใช้สำหรับการลงทุนโครงการพลังงานหมุนเวียน ทั้งโซลาร์ฟาร์ม โซลาร์ร่วมกับระบบแบตเตอรี่ โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำและพลังงานลม เป็นต้น รวมทั้งธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) โดยปีนี้บริษัทจะนำเข้า LNG ราว 4-5 ล้านตัน เพื่อป้อนโรงไฟฟ้า IPP และโรงไฟฟ้าหินกอง ซึ่งคาดว่าจะทำให้บริษัทรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากค่าธรรมเนียม shipper fee ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท โดยเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจก๊าซของบริษัทต่อไป
ทั้งนี้ ในส่วนของธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคที่อยู่ระหว่างการพัฒนายังคงเป็นไปตามแผน ส่วนธุรกิจศูนย์ข้อมูล (data center) มีแผนที่จะทยอยเปิดให้บริการเฟสแรกขนาด 25 เมกะวัตต์ ในเดือน เม.ย.นี้ ซึ่งมีลูกค้าเกือบเต็มแล้ว และมีแผนขยายเฟส 2 อีกไม่ต่ำกว่า 50 เมกะวัตต์ ขณะที่ธุรกิจ cloud ซึ่งบริษัทได้ร่วมมือกับ Google เพื่อให้บริการ Google Distributed Cloud air-gapped มีแผนเปิดให้บริการในช่วงกลางปี 2568
