“นภินทร” เผยกรมทรัพย์สินทางปัญญา ประกาศขึ้นทะเบียนสินค้า GI ใหม่อีก 2 รายการ “มะม่วงขายตึกแปดริ้ว-มะม่วงแรดแปดริ้ว” ถือเป็นรายการที่ 4 และ 5 ของจังหวัดฉะเชิงเทรา มั่นใจช่วยให้มะม่วงเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมากขึ้น หนุนสร้างมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นจากปีละ 87 ล้านบาทได้แน่
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รายการใหม่ เพิ่มอีก 2 รายการ คือ มะม่วงขายตึกแปดริ้ว และมะม่วงแรดแปดริ้ว เป็นสินค้า GI ลำดับ 4 และ 5 ของจังหวัดฉะเชิงเทราต่อจากสินค้ามะม่วงน้ำดอกไม้สีทองบางคล้า มะพร้าวน้ำหอมบางคล้า และมะม่วงเขียวเสวยแปดริ้ว ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI ไปก่อนหน้านี้ โดยมั่นใจว่า หลังจากการขึ้นทะเบียน GI จะทำให้มะม่วงเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น และช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมากขึ้น และจะทำให้มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีกว่า 87 ล้านบาทต่อปี
ทั้งนี้ จังหวัดฉะเชิงเทรา หรือที่เรียกโดยทั่วไปว่า เมืองแปดริ้ว พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบและที่ราบลุ่มแม่น้ำ มีแม่น้ำบางปะกงไหลผ่านออกสู่อ่าวไทย และมีคลองท่าลาดเป็นคลองธรรมชาติที่สำคัญ เมื่อไหลมาบรรจบกับแม่น้ำบางปะกงในอำเภอบางคล้า ทำให้พื้นที่ตลอดลำน้ำได้รับอิทธิพลของน้ำทะเลหนุน พัดเอาตะกอนดินเหนียว และแร่ธาตุมารวมกัน อีกทั้งยังมีการผสมผสานระหว่างตะกอนน้ำจืดและน้ำกร่อย ทำให้ดินมีธาตุอาหารสูง ส่งผลให้มะม่วงขายตึกแปดริ้วและมะม่วงแรดแปดริ้วมีคุณภาพดี
โดยมะม่วงขายตึกแปดริ้ว เป็นมะม่วงไทยโบราณ มีตำนานเล่าว่า ชื่อของมะม่วงขายตึก มาจากรสชาติความอร่อยของมะม่วง จึงเปรียบเปรยว่าให้ขายตึก ขายบ้านมาซื้อทานก็ยอม อีกตำนานเล่าว่า มีแขกเข้ามาค้าขายบริเวณลุ่มแม่น้ำบางปะกง ชื่นชอบในรสชาติของมะม่วงพันธุ์นี้ จึงขายตึกเพื่อมาซื้อที่ปลูกมะม่วงพันธุ์นี้ จึงเป็นที่มาของชื่อมะม่วงขายตึก ซึ่งเป็นกลุ่มมะม่วงมันหรือมะม่วงดิบ ผิวมีสีเหลืองสวย ผลมีลักษณะคล้ายรูปหัวใจ เนื้อสีเหลืองอมส้ม กรอบ เมล็ดเล็ก รสชาติมัน หวานอมเปรี้ยว ด้วยลักษณะอันโดดเด่นมีเอกลักษณ์ ทำให้มะม่วงขายตึกแปดริ้วเป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
ส่วนมะม่วงแรดแปดริ้ว มีการเพาะปลูกในจังหวัดฉะเชิงเทรามาอย่างยาวนาน ผลอ่อนจะมีผิวเปลือกสีเขียว เนื้อสีขาวและกรอบ รสชาติเปรี้ยวจัด เมื่อผลแก่ ผิวเปลือกจะมีสีเขียวเข้ม เนื้อสีเหลืองอ่อนและกรอบ รสชาติมัน หวานอมเปรี้ยว เมื่อผลสุกเนื้อจะมีสีเหลือง เนื้อละเอียด ไม่เละ รสชาติหวาน มีกลิ่นหอม เป็นที่นิยมของผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สามารถส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ เช่น เวียดนามและญี่ปุ่น เป็นต้น
สำหรับประชาชนที่สนใจ สามารถอุดหนุนเกษตรกร และผู้ประกอบการ GI ไทย ได้ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป เช่น TOPs ตลาดจริงใจ Farmers’ Market ในเครือ Central กูร์เมต์ มาร์เก็ต ในเครือ The Mall และแพลตฟอร์ม Born Thailand เป็นต้น