xs
xsm
sm
md
lg

ERSเสนอ”อิ๊งค์”แก้ไขร่างPDP2024 ชี้พยากรณ์การใช้สูงเกินทำค่าไฟพุ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แกนนำกลุ่มปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืน(ERS)แจง 3 เหตุผลที่นายก “แพทองธาร”ในฐานะประธานกพช.ต้องแก้ไขปรับปรุงร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า PDP2024 ชี้พยากรณ์ใช้ไฟฟ้าสูงเกินไป ทำค่าไฟจะแพงขึ้น และใช้การประมูลราคาไฟฟ้าเสนอขายเป็นหลักในการคัดเลือกโครงการพลังงานหมุนเวียนใหม่

วานนี้(4ธันวาคม) แกนนำกลุ่มปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืน หรือ ERS พร้อมเทคโนแครตด้านพลังงาน นำโดย นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ นายคุรุจิต นาครทรรพ นายพรายพล คุ้มทรัพย์ ร่วมกันแถลง 3 เหตุผลหลักที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ควรแก้ไขปรับปรุงร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2567-2580 (PDP2024) ดังนี้ คือ

1. คาดการณ์ความต้องการไฟฟ้าของไทยใน 14 ปีข้างหน้าสูงเกินไป อันจะนำไปสู่การเพิ่มกำลังผลิตและสร้างโรงไฟฟ้าใหม่มากเกินความจำเป็น เพราะทำให้เกิดการวางแผนลงทุนสร้างกำลังผลิตใหม่ที่ไม่มีความคุ้มค่า และเป็นต้นทุนแฝงที่จะเป็นภาระต่อผู้บริโภคภายใต้ระบบการกำหนดค่าไฟฟ้าในปัจจุบันที่ต้นทุนทั้งหมดจะถูกนำไปคำนวณรวมผ่านไปสู่ผู้บริโภค

2. ควรส่งเสริมไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีความเสถียร (Renewables with Reliability) อย่างมีนัยสำคัญ เพื่อช่วยทดแทนพลังงานจากฟอสซิล และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจาก
ภาคพลังงาน แต่ทั้งนี้ราคาขายไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนดังกล่าวควรอยู่ในระดับที่เหมาะสม และกำหนดให้โครงการพลังงานแสงอาทิตย์และพลังลมต้องพ่วงการติดตั้งแบตเตอรี่หรือระบบจัดเก็บพลังงาน เพราะต้นทุนได้ลดลงมากและยังมีแนวโน้มลดลงอีก

นอกจากนี้ ควรใช้ระบบการประมูลราคาไฟฟ้าเสนอขายเป็นปัจจัยหลักในการคัดเลือกโครงการพลังงานหมุนเวียนใหม่ อีกทั้งนำระบบจัดเก็บภาษีคาร์บอนและระบบการซื้อขายสิทธิการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Emission Trading System: ETS) มาใช้ในภาคผลิตไฟฟ้าโดยเร็ว เพื่อการพิจารณาที่รอบด้าน ไม่ให้เกิดการลงทุนที่เสียเปล่า (Stranded Assets) ซึ่งจะเป็นภาระต่อผู้บริโภคในระบบที่เป็นอยู่ เพราะในปัจจุบันคิดแต่ต้นทุนทางการเงินเท่านั้น

3. รัฐต้องปรับปรุงโครงสร้างกิจการไฟฟ้าในประเทศให้มีการแข่งขันเสรี โดยให้ผู้ผลิตไฟฟ้าสามารถขายไฟฟ้าตรงให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าโดยใช้บริการสายส่งและสายจำหน่ายของการไฟฟ้า (Third Party Access: TPA) มีการคิดค่าบริการผ่านสายส่ง/จำหน่าย (Wheeling Charges) ที่เป็นธรรม ซึ่งในภาวะที่กำลังผลิตไฟฟ้าอยู่ในระดับสูงเช่นปัจจุบัน ค่าไฟฟ้าควรที่จะลดลงตามกลไกของอุปทานอุปสงค์หากกิจการไฟฟ้ามีการแข่งขันที่เสรี ทั้งนี้จะต้องแยกระบบสายส่งไฟฟ้าและศูนย์ควบคุมระบบไฟฟ้า (System Operator) ให้เป็นอิสระจากการผลิตไฟฟ้า และมีกลไกในการสร้างความสมดุลในระบบไฟฟ้า โดยกำลังผลิตใหม่ไม่ควรเป็นลักษณะของสัญญาซื้อขายระยะยาว (PPA) เช่นในปัจจุบัน

ในระบบเสรีจะไม่มีการประมูลและคัดเลือกกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่ ทั้งเอกชนและ กฟผ. หรือรัฐวิสาหกิจสามารถจะลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าได้อย่างอิสระ แต่ความเสี่ยงทั้งหมดจะอยู่ที่ผู้ผลิตไฟฟ้า

ดังนั้น แผน PDP2024 ควรเริ่มเตรียมการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบแข่งขันเสรีได้แล้ว อาทิ มีการประมูลราคาก่อนทำสัญญาซื้อขาย สัญญาใหม่ต้องมีเงื่อนไขให้สามารถเปลี่ยนรูปแบบให้สอดคล้องกับระบบเสรีได้ เป็นต้น เพื่อให้โครงการขนาดใหญ่ Digital Hub จะต้องสามารถเลือกทำสัญญาซื้อไฟฟ้าจากการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมผ่านระบบสายส่งได้ด้วย

นอกจากนี้ พลังงานนิวเคลียร์เป็นทางออกที่สำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหากประเทศไทยจะไปให้ถึง Net Zero จึงเห็นด้วยกับ PDP2024 ที่กำหนดให้มีโรงไฟฟ้า SMR แต่ย้ำว่าต้องเตรียมการล่วงหน้าให้ครบถ้วน นอกจากนี้ไม่ควรให้ กฟผ. รับภาระค่าไฟฟ้าที่รัฐบาลไม่ให้ขึ้น เพราะในที่สุดก็จะต้องเป็นภาระต่อผู้บริโภคอยู่ดี


กำลังโหลดความคิดเห็น