- • กรมการค้าภายในหารือสมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลือง เพื่อยืนยันไม่ปรับราคาแม้ราคาน้ำมันปาล์มสูงขึ้น
- • น้ำมันถั่วเหลือง เป็นทางเลือกสำหรับครัวเรือน เนื่องจากราคาคงที่
- • ห้างค้าปลีกยืนยัน ผู้ผลิตไม่ปรับราคา และจะจัดส่งสินค้าให้เพียงพอ
กรมการค้าภายในถกสมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลือง ยืนยันไม่ปรับขึ้นราคาในช่วงที่ราคาน้ำมันปาล์มมีแนวโน้มสูงขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกในการบริโภคของครัวเรือน ด้านห้างช่วยยัน ผู้ผลิตไม่มีปรับราคา และจะจัดส่งสินค้าให้เพียงพอ พร้อมนำน้ำมันปาล์มราคาถูกขายในร้านธงฟ้าเพิ่ม ย้ำจะติดตามใกล้ชิด หากพบเอาเปรียบ โก่งราคา เล่นงานหนัก
นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้เชิญสมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองมาหารือ เพื่อติดตามสถานการณ์และกำกับดูแลสินค้าน้ำมันพืชบรรจุขวดอย่างใกล้ชิด โดยผู้ประกอบการยืนยันให้ความร่วมมือในการไม่ขึ้นราคาจำหน่ายน้ำมันถั่วเหลือง เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนผู้บริโภคในช่วงที่น้ำมันปาล์มขวดมีแนวโน้มปรับราคาสูงขึ้น เพราะน้ำมันถั่วเหลืองจะสามารถใช้ทดแทนน้ำมันปาล์มขวดได้สำหรับการบริโภคในครัวเรือนเป็นส่วนใหญ่ และการไม่ขึ้นราคาดังกล่าวจะช่วยลดปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มขวดลงได้ในระดับหนึ่ง
ทั้งนี้ กรมอยากเชิญชวนให้ผู้บริโภคมาบริโภคน้ำมันถั่วเหลืองเป็นทางเลือกทดแทนในครัวเรือน เนื่องจากตอนนี้ราคาน้ำมันถั่วเหลืองไม่สูง เมื่อเทียบกับน้ำมันปาล์ม โดยจะมีจำหน่ายเพิ่มเติมได้ประมาณวันละ 150,000 ขวด
ขณะเดียวกัน กรมได้หารือร่วมกับห้างค้าส่งค้าปลีก ห้างท้องถิ่น โดยทุกห้างยืนยันผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวดไม่มีการแจ้งปรับขึ้นราคาตามที่มีกระแสข่าวช่วงก่อนหน้านี้ และผู้ผลิตพร้อมจัดส่งสินค้าในราคาเดิมให้เพียงพอ โดยกรมจะร่วมกับห้างในการติดตามราคาและการจัดส่งสินค้าให้เพียงพอทุกวัน ส่วนห้างจะจัดโปรโมชันจำหน่ายน้ำมันถั่วเหลืองเพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องด้วย
สำหรับน้ำมันปาล์ม กรมได้เพิ่มช่องทางในการจำหน่ายน้ำมันปาล์มราคาถูกผ่านร้านธงฟ้า เพื่อให้ประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อยได้ซื้อ และหากสถานการณ์ยังตึงตัว จะหารือกับกระทรวงพลังงานในเรื่องของการพิจารณาการผลิตน้ำมันจากสูตร B7 เป็น B5 ในช่วงที่ปริมาณผลปาล์มมีไม่มาก เพื่อให้มีน้ำมันปาล์มสำหรับบริโภคเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ กรมจะตรวจสอบการจำหน่ายน้ำมันพืช ทั้งน้ำมันถั่วเหลืองและน้ำมันปาล์ม กรณีตรวจสอบพบการฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่าย จะมีโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในส่วนของประชาชนหากไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการสามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ