- • บริษัท ช.ทวี และ เอเอสก่อสร้าง ยื่นราคาต่ำสุดในการประมูลงานก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 สายแรก ช่วงขอนแก่น - หนองคาย
- • วงเงินโครงการอยู่ที่ 2.86 หมื่นล้านบาท
- • คาดว่าจะเสนอเรื่องต่อบอร์ด รฟท. ในวันที่ 24 ตุลาคมนี้
- • คาดว่าจะเซ็นสัญญาในเดือนพฤศจิกายน 2567
“ช.ทวี-เอเอสก่อสร้าง” ยื่นราคาต่ำสุดจ่อประเดิมคว้างานก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 สายแรก ช่วงขอนแก่น-หนองคาย วงเงิน 2.86 หมื่นล้านบาท คาดชงบอร์ด รฟท. 24 ต.ค.นี้ เซ็นสัญญา พ.ย. 2567
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า จากที่รฟท.ได้เปิดประกวดราคาจ้างในระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-bidding) โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. ราคากลาง 28,719,940,000.00 บาท ตามประกาศการรถไฟฯ ลงวันที่ 21 มิถุนายน 2567 โดยกำหนดให้ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องยื่นข้อเสนอและเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา
โดยมีผู้สนใจเข้ายื่นเอกสารทั้งสิ้นจำนวน 4 ราย ประกอบด้วย 1. บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) 2. บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) 3. บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด และ 4. กิจการร่วมค้า ช.ทวี-เอเอสก่อสร้าง
รายงานข่าวจาก รฟท.เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2567 คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาฯ ได้ประชุมเพื่อพิจารณาข้อเสนอด้านราคา โดยพบว่า กลุ่มกิจการร่วมค้า ช.ทวี-เอเอสก่อสร้าง (ประกอบด้วย บจ.ช.ทวีก่อสร้าง, บจ.เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964), บจ.ทิพากร และ บจ.เค เอส ร่วมค้า) เป็นผู้เสนอราคาต่ำที่สุด โดยเสนอราคาที่ 28,680 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% แล้ว) ต่ำกว่าราคากลาง 39.940 ล้านบาท (0.14%) และต่ำกว่าวงเงินงบประมาณ 79 ล้านบาท (0.27%) โดยมีกำหนดยืนราคา 180 วัน นับจากวันที่เสนอราคา โดยจะครบกำหนดวันที่ 15 ก.พ. 2568
หลังจากที่คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาพิจารณาแล้ว คาดว่าจะมีการเสนอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.พิจารณาในการประชุมวันที่ 24 ต.ค. 2567 นี้ โดยเมื่อมีบอร์ด รฟท.เห็นชอบแล้ว ก็จะนัดลงนามในสัญญาต่อไป คาดว่าช่วงเดือน พ.ย. 2567 และจะมีการส่งมอบหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (Notice to Proceed: NTP) ในช่วงเดือน ธ.ค. 2567-ม.ค. 2568 ซึ่งโครงการนี้ใช้เวลาก่อสร้าง 1,080 วัน
สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย เป็นโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ซึ่งการรถไฟฯ ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่16 ตุลาคม 2566 โดยเป็นการก่อสร้างทางรถไฟใหม่เพิ่ม 1 ทาง ขนานไปกับทางรถไฟเดิม รวมระยะทางประมาณ 167 กิโลเมตร ประกอบด้วยอาคารสถานีทั้งสิ้น 14 สถานี ที่หยุดรถจำนวน 4 แห่ง ชานบรรทุกสินค้า 4 แห่ง และชานบรรทุกทหาร 1 แห่ง พร้อมทั้งงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคมตลอดทั้งสายทาง มีกรอบวงเงิน 29,748 ล้านบาท (ค่าก่อสร้าง 28,759 ล้านบาท ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 369 ล้านบาท ค่าที่ปรึกษาสำรวจอสังหาริมทรัพย์ ดำเนินการจัดการ ประกวดราคา และควบคุมงานก่อสร้าง 620 ล้านบาท
เส้นทางนี้เป็นเส้นทางสำคัญที่เชื่อมต่อจากช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่นผ่านจังหวัดอุดรธานีและสิ้นสุดที่สถานีหนองคาย เพื่อเติมเต็มระบบรถไฟทางคู่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งระบบรางทั้งการขนส่งสินค้า และโดยสาร ลดต้นทุนการขนส่งระบบโลจิสติกส์ลดระยะเวลาในการเดินทางได้ 1-1.50 ชั่วโมง ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงลดปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางเสมอระดับรถไฟ-รถยนต์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบการขนส่งทางรางให้เป็นระบบขนส่งหลักของประเทศ และสามารถอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ตลอดจนเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าได้ทุกภูมิภาค