- • สถานการณ์ข้าวเปลือกช่วงปลายฤดูนาปรังและต้นฤดูนาปีเป็นปกติ
- • ราคาข้าวเปลือกอยู่ในเกณฑ์ดี
- • ทั้งข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกเหนียวมีราคาดี
- • โรงสีรับซื้อข้าวเปลือกต่อเนื่อง
- • ความต้องการของตลาดในประเทศยังคงมี
กรมการค้าภายในเกาะติดสถานการณ์ข้าวเปลือก ช่วงปลายฤดูนาปรัง และเข้าสู่ต้นฤดูนาปี พบสถานการณ์ยังเป็นปกติ ราคาอยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกเหนียว ส่วนโรงสียังรับซื้อต่อเนื่อง จากความต้องการของตลาดในประเทศและส่งออกที่ยังเติบโต
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้ติดตามสถานการณ์ข้าวเปลือกในขณะนี้ ซึ่งเป็นปลายช่วงฤดูนาปรัง และเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวนาปีในบางพื้นที่ พบว่า ราคาข้าวเปลือกทุกชนิด ณ วันที่ 10 กันยายน 2567 ยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยราคาข้าวหอมมะลิรับซื้อเฉลี่ยที่ 16,450 บาท/ตัน สูงสุดที่ 17,400 บาท/ตัน ข้าวเปลือกเจ้ารับซื้อเฉลี่ยที่ 11,100 บาท/ตัน สูงสุด 11,700 บาท/ตัน ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ราคาอยู่ที่ 13,600 บาท/ตัน สูงสุด 14,000 บาท/ตัน
สำหรับแนวโน้มตลาดการค้าข้าวในประเทศและการส่งออกข้าวของไทย ยังเป็นไปได้ด้วยดี โดยนายกสมาคมโรงสี ยืนยันว่าโรงสีทุกโรงยังคงแข่งขันรับซื้อข้าวจากชาวนา แม้ว่าบางรายอาจจะประสบปัญหาสภาพคล่อง แต่ก็จะมีการปรับรูปแบบการรับซื้อและยังคงซื้อต่อเนื่อง จึงขอให้มั่นใจว่าโรงสีทุกโรงยังคงรับซื้อข้าวและยังแข่งขันกันอย่างเต็มที่
นายวัฒนศักย์กล่าวว่า กรณีพื้นที่ ๆ ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมและปริมาณน้ำลดลงแล้ว กระทรวงพาณิชย์ได้ประสานผู้ประกอบการ ห้างค้าปลีก-ค้าส่งขนาดใหญ่ และห้างท้องถิ่นนำสินค้าอุปโภคบริโภคไปเปิดจุดจำหน่ายในพื้นที่แล้ว จำนวน 9 จังหวัด และได้ประสานห้างค้าปลีก-ค้าส่งและห้างท้องถิ่น เปิดพื้นที่จำหน่ายผักสดและไข่ไก่ด้วย รวมทั้ง ได้ประสานผู้ผลิตสินค้าเกี่ยวกับการทำความสะอาดส่งมอบให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด 9 จังหวัด เพื่อสนับสนุนกิจกรรมทำความสะอาดให้กับบ้านเรือนและสถานที่ราชการแล้ว
ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการจำหน่ายสินค้าไม่ปิดป้ายแสดงราคา หรือจำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควรร้องเรียนได้ที่ สายด่วน 1569 หากพบว่ามีความผิด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคา มีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท และกรณีที่จำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควร มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับสูงสุดไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ