การตลาด - โตชิบา ครึ่งปีแรกโต 26% รุกหนักครึ่งปีหลัง เปิดตัวสินค้าใหม่ 27 รุ่น เน้นขยายไลน์อัพสินค้า ทำตลาด Mid to High มากขึ้น และส่งแคมเปญมากมายคืนกำไรให้ลูกค้า ตั้งเป้าเติบโตทั้งปี 20% มองเงินดิจิทัลเอื้อประโยชน์ให้โตชิบาทางอ้อม พร้อมตั้งรับทุกสถานการณ์
นายอเล็กซ์ มา รองประธาน บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน (ไม่รวมทีวี) ครึ่งปีแรก2567มีอัตราการเติบโต 6% โดยหลักๆ แล้วเติบโตมาจาก กลุ่มตู้เย็น กลุุ่มเครื่องซักผ้า และกลุ่มเครื่องปรับอากาศ ที่เติบโตมากถึง 10% แต่หากไม่นับรวมเครื่องปรับอากาศ นับเฉพาะตู้เย็นและเครื่องซักผ้าจะเติบโต 5% ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก ติดลบ 7%
อย่างไรก็ตามในส่วนของโตชิบา ไทยแลนด์ ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เรามีอัตราการเติบโตเกินคาดที่ 26% โดยเฉพาะเครื่องซักผ้าเติบโตสูงสุดถึง 47% เนื่องจากมีสินค้ารุ่นใหม่ๆ ออกตลาดมากขึ้น และสินค้าหลายรุ่นขยายฐานการผลิตมาในประเทศไทย เกิดความได้เปรียบในเรื่องราคา
ส่วนสินค้าของโตชิบาที่เติบโตรองลงมา ได้แก่ ไมโครเวฟโต 19%, ตู้เย็นโต 15% หม้อหุงข้าว/สินค้าชิ้นเล็กโต 6% และกลุ่มผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับน้ำ เช่น เครื่องทำน้ำอุ่นโต 1% ขณะที่ภาพรวมตลาดติดลบ เนื่องจากอากาศไม่เอื้ออำนวย ขณะที่เครื่องปรับอากาศโตมากถึง 103% เพราะมีสัดส่วนการขายไม่มาก
จากการเติบโตที่ดีนี้เอง ส่งผลให้ปัจจุบันโตชิบามีมาร์เก็ตแชร์ติดอันดับท็อป 3 ในเกือบทุกกลุ่มสินค้า เช่น 1. ตู้เย็น อันดับ 2 แชร์ 16%, 2. เครื่องซักผ้า อันดับ 3 แชร์ 10.8%, 3.ไมโครเวฟ อันดับ 1 แชร์ 28.5%, 4.หม้อหุงข้าวอันดับ 2 แชร์ 9.2% และ5.เครื่องทำน้ำอุ่น อันดับ 6 แชร์ 7%
ถ้าดูสถิติย้อนหลัง 5 ปี ตั้งแต่ปี 2562-2566 จะเห็นได้ว่าบริษัทมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 12% ต่อปี ซึ่งมาจากความเชื่อมั่นในแบรนด์ และผลิตภัณฑ์โตชิบาที่ผู้บริโภคให้การยอมรับ นายอเล็กซ์ กล่าวต่อว่า จากความสำเร็จในครึ่งปีแรกที่เติบโตถึง 26% ส่งผลให้ครึ่งปีหลังโตชิบาตั้งเป้าเติบโต 14% หรือตลอดทั้งปี 2567 นี้ คาดว่าจะมีการเติบโตที่ 20% การเติบโตดังกล่าว มาจาก 1.แผนครึ่งปีแรกที่ออกสินค้าใหม่ 17 รุ่น เน้นสินค้ากลุ่มมิดทูไฮ, ระบบซัพพลายเชน และช่องทางจำหน่าย ขณะที่ 2.แผนครึ่งปีหลัง จะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ 27 รุ่น แบ่งเป็น HA 13 รุ่น และชิ้นเล็กอีก 14 รุ่น เน้นซีรีส์พรีเมียมมากขึ้น, ช่องทางจำหน่าย เพิ่มเจ้าหน้าที่แนะนำสินค้า รีโนเวตหน้าร้าน เน้นออนไลน์แคมเปญ เช่น ดับเบิ้ลเดท เป็นต้น, แผนการตลาดทำต่อเนื่อง เน้นแคมเปญโปรโมชั่น อีเว้นท์เปิดตัวสินค้าใหม่ ทำดิจิทัลคอนเท้นท์สู่สายตามากขึ้น, บริการหลังการขาย ปรับภาพลักษณ์ให้ชัดเจนขึ้นที่ศูนย์บริการ ให้บริการโมบายเซอร์วิส กลุ่มสินค้าพรีเมี่ยม ทำวันสต็อปเซอร์วิสที่โตชิบา ไทยแลนด์ดูแลเอง ซึ่งใช้งบการตลาดอยู่ที่ 14% ของรายได้รวม ที่จะใช้ตลอดปี
ทั้งนี้ในครึ่งปีแรก บริษัทฯ เปิดตัวสินค้าใหม่ไป 17 รุ่น โดยเน้นกลุ่มสินค้าที่เป็น Mid to High มากขึ้น นอกจากนี้เราบริหารจัดการภายใน ทั้งในเรื่องซัพพลายเชน และโอเปอเรชันทีมให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในส่วนของช่องทางการจัดจำหน่าย ตั้งแต่ต้นปี เราเพิ่มพนักงานขายหน้าร้าน ประมาณ 20% มีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น เพื่อปรับแนวทางการบริหารช่องทางให้เหมาะสม รวมถึงยังคงให้ความสำคัญกับการปรับโฉมหน้าร้านค้าให้สวยงาม ทันสมัย และเพิ่มเติมพื้นที่พิเศษให้เป็น Experience Zone มากขึ้น
“ครึ่งปีหลังมองว่า มีความท้าทายจากแนวโน้มสถานการณ์ต่างๆ แต่โตชิบา ไทยแลนด์ เตรียมพร้อมทีม เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น แม้ในภาพรวมเศรษฐกิจ เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่เรายังคงเชื่อมั่นในประเทศไทย และเรามีความพร้อมและเตรียมแผนตั้งรับเสมอ” นายอเล็กซ์ กล่าว
ในส่วนการตลาด เราเปิดตัวแคมเปญใหญ่ 55 ปี โดยมีคุณหมาก ปริญ สุภารัตน์ เป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ รวมถึงทำกิจกรรมต่อเนื่องทั้งออฟไลน์และออนไลน์ มีโปรโมชันส่งเสริมการขายและทำกิจกรรม ณ จุดขายอย่างต่อเนื่อง และส่วนสุดท้ายคือเรื่องบริการหลังการขาย ที่เราอัพเกรดภาพลักษณ์ และคุณภาพงานบริการให้รวดเร็ว พร้อมตอบสนองการเติบโตของลูกค้าโตชิบาที่เพิ่มมากขึ้น”
ด้านนายเอกดนัย ตันติภูมิอมร ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ กล่าวว่า สำหรับแผนครึ่งปีหลัง บริษัทมีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่อีก 27 รุ่น เช่น 1.ตู้เย็น 8 รุ่น เช่น เปิดตัวตู้เย็นซีรีย์ใหม่ JAPANDI จำนวน 2 รุ่น คือ ตู้เย็น 4 ประตู แบบมัลติดอร์ ความจุ 18.9 คิว และตู้เย็น 4 ประตู แบบเฟรนช์ดอร์ ความจุ 18.8 คิว ซึ่งทั้ง 2 รุ่นผสมผสานดีไซน์ความ Minimal สีขาวเรียบหรู Fuji White จากความเป็น Japan มาพร้อมมือจับสไตล์ Scandinavian ให้ความรู้สึกอบอุ่น ออกแบบมาให้ฟิตเข้าได้กับบิ้วอินแบบแนบสนิท ไม่ต้องเหลือพื้นที่ด้านข้างหรือด้านหลังตู้ เพื่อระบายความร้อนแบบตู้เย็นทั่วไป โดยระบายความร้อนที่ด้านล่างตัวเครื่องแทน
2.เครื่องซักผ้า 5 รุ่น เช่นรุ่น TWD-T21BU115UWT (MG) ความจุซัก 10.5 กิโลกรัม และอบ 7 กิโลกรัม ตัวถังขนาดใหญ่ 510 มิลลิเมตร ทำให้แรงในการปั่นผ้ามากขึ้น ผ้ายับน้อยลง นอกจากถังใหญ่แล้ว ช่องใส่ผ้ายังกว้างถึง 330 มิลลิเมตร ช่วยให้ใส่ผ้านวมสะดวกมากขึ้น และสามารถมอนิเตอร์การทำงานผ่านมือถือได้ ดูโปรแกรมการซัก รอบการซักได่ผ่านแอปพลิเคชัน TSmartLife
3. เตาอบไมโครเวฟ รุ่น MX-1TH23SC (WH) ความจุ 23 ลิตร เป็นเตาอบไมโครเวฟ แบบ 4 in 1 สะดวกทั้ง นึ่ง อบ อุ่น และย่าง ทำงานแบบระบบอินเวอร์เตอร์ ให้ความร้อนเสถียรและประหยัดไฟ มีระบบ Cyclic Steam ที่ทำไอน้ำที่ 100 องศาได้อย่างรวดเร็ว ใช้นึ่งอาหารได้ดีทำให้อาหารสุกสม่ำเสมอ สีสันน่ารับประทาน มีเมนูทำอาหารอัตโนมัติ 38 เมนู เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำอาหาร
4. หม้อหุงข้าวระบบอินดักชัน รุ่น RC-18IH1TTH ความจุ 1.8 ลิตร ระบบ Induction Heating หม้อด้านในหนา 3 มิลลิเมตร พร้อมสารเคลือบหนา 7 ชั้น ทำให้ข้าวไม่ติดหม้อ ทำความสะอาดง่าย
5. เครื่องทำน้ำอุ่น TWH-60EFNTH(K)-RSขนาด 6000 วัตต์ ระบบ SensTemp เน้นเรื่องการควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสม โดยวาล์วน้ำเข้าจะทำการตรวจเช็คอุณหภูมิ
“แผนดังกล่าว สืบเนื่องจากภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครึ่งปีแรก สินค้ากลุ่มตู้เย็น และเครื่องซักผ้า มีอัตราการเติบโต 4.7% และสำหรับโตชิบาเอง ผลประกอบการครึ่งปีแรกของตู้เย็น และเครื่องซักผ้าเติบโตสูงถึง 26% จนทำให้สัดส่วนการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ของสินค้า 2 กลุ่มดังกล่าวโตขึ้นถึง 2.9% ซึ่งถือว่าเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ โดยเฉพาะตู้เย็นขนาดใหญ่ กลุ่มไซด์บายไซด์ และ 4 ประตู มัลติดอร์ เราเติบโตถึง 114% ในขณะเดียวกัน เครื่องซักผ้าฝาหน้าก็โตถึง 88%” นายเอกดนัย กล่าว
ด้านนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า ความผันผวนจากปัจจัยภายนอกจากเศรษฐกิจโลก รวมทั้งเรื่องค่าเงินที่ผันผวน ทำให้เราต้องสร้างธุรกิจให้แข็งแกร่ง เพื่อเตรียมความพร้อมปัจจัยเสี่ยงที่ควบคุมไม่ได้ เช่น การขยายฐานผลิตจากจีนมาไทย อย่าง ตู้เย็น เครื่องชักผ้า ทำให้โตชิบามีความยืดหยุ่นมากขึ้น
ส่วนนโยบายภาครัฐที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างเช่น เงินดิจิทัล เราคงไม่ได้ประโยชน์โดยตรง แต่อาจจะได้ผลประโยชน์ทางอ้อม และผลจากภาคการท่องเที่ยวที่จะเติบโตมากขึ้นในครึ่งปีหลังจะมีส่วนช่วยให้โตชิบา มีผลประกอบการเป็นไปตามเป้า
“บทสรุปที่สำคัญที่ทำให้โตชิบา ไทยแลนด์ อยู่มาได้ 55 ปี และมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ส่วนสำคัญมาจากสื่อมวลชนที่ช่วยสื่อสารความเป็นเราออกไปสู่สายตาผู้บริโภค เรามั่นใจที่จะพูดถึงผลประกอบการในปีนี้ ซึ่งเกิดจากเราเชื่อมั่นในประเทศไทย เชื่อมั่นอนาคต เชื่อมั่นในสิ่งที่ทำมาตลอด เพื่อนำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต ทำให้เรายืนหยัดมาถึงทุกวันนี้ได้ ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีที่เรามีไลน์อัพสินค้าครบครันมากที่สุด มากที่สุด ครบทุกความต้องการของผู้บริโภค ตอบโจทย์ทุกคน ทุกไลฟ์สไตล์ ทุกขนาดกระเป๋า พัฒนาการให้บริการ ให้คู่ค้าเติบโตไปพร้อมกับเรา และเราจะเติบโตต่อไป แม้เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร แต่ถือเป็นปัจจัยภายนอก อยู่ที่เราต้องเตรียมความพร้อม มั่นใจว่าการเติบโต 14% ในครึ่งปีหลังจะทำได้อย่างแน่นอน” นางกอบกาญจน์ กล่าว
นางสาวธัญปภัสส์ อริยะวรวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า ปีนี้โตชิบา ไทยแลนด์ครบรอบ 55 ปี เราตั้งใจทำแคมเปญใหญ่ ทั้งเพื่อสร้างภาพลักษณ์ และตอบแทนผู้บริโภคทุกคน ประเดิมต้นปีโดยการเปิดตัวแบรนด์ แอมบาสเดอร์ คุณหมาก ปริญ สุภารัตน์ เพื่อปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้เด็กลง ซึ่งบริษัทได้ทุ่มงบโฆษณามากกว่าเดิม โปรโมททั้งในทีวี สื่อออนไลน์ โซเชียล รวมไปถึงสื่อนอกบ้าน สื่อเคลื่อนที่ และที่สำคัญสื่อ ณ จุดขาย
นอกจากนี้ยังมีแคมเปญออนไลน์อีกมากมาย รวมถึงการใช้อินฟลูเอนเซอร์รีวิวสินค้า ให้ผู้บริโภคเข้าใจสินค้ามากขึ้น ส่งผลให้ช่วยเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มยอดขายจนทำให้ครึ่งปีแรกบริษัทฯ มียอดขายเติบโตถึง 26% และยังช่วยเพิ่มฐานผู้ติดตามในโซเชียลของโตชิบาสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะช่องทางยูทูปที่เติบโตสูงมากจนได้รับรางวัล Youtube Silver Award โตชิบายังจัดทำโรดโชว์ และโปรโมชันส่งเสริมการขายต่อเนื่อง เพื่อตอบแทนลูกค้าที่ซื้อสินค้าโตชิบา อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับพันธมิตรการค้า โดยปรับโฉมร้านค้าตัวแทนจำหน่ายให้สวยงามยิ่งขึ้น กว่า 100 สาขา รวมไปถึงการคัดเลือกร้านค้าหลักเพื่อสร้าง Experience Zone เปิดประสบการณ์ให้ลูกค้าเข้ามาทดลองใช้สินค้ามากขึ้น
“ครึ่งปีหลัง โตชิบายังคงทำแคมเปญ 55 ปีต่อเนื่อง โปรโมทแบรนด์ และสินค้าผ่านสื่อออนไลน์กว่า 10 แคมเปญ รวมถึงจัดทำโปรโมชันส่งเสริมการขาย อาทิ Rainy Campaign ลุ้นรับฟรีเครื่องซักผ้า 55 เครื่อง มูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท ต่อด้วยจะมีโปรโมชันส่งท้ายปีอีก 2 แคมเปญ ยังมีแผนจัดโรดโชว์เปิดตัวสินค้าใหม่ที่จะเปิดตัวในครึ่งปีหลัง วันที่ 24-25 สิงหาคม 2567 นี้ ที่สยามพารากอน และยังมีโรดโชว์ใหญ่ปลายปีอีกครั้งต้อนรับเทศกาลกิฟท์ “คิดถึงของขวัญ คิดถึงโตชิบา” ที่เราทำต่อเนื่องมา 3 ปี ในส่วนของร้านค้า โตชิบายังคงทุ่มงบ และให้ความสำคัญกับการปรับภาพลักษณ์ และการสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้ลูกค้า ณ จุดขาย และสุดท้ายคือการให้ความสำคัญด้านบริการหลังการขาย ปรับโฉมศูนย์บริการโตชิบาให้ดูสวยงาม ทันสมัย มีการเทรนนิ่งและพัฒนาเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ยกระดับบริการมากขึ้น ขยายเพิ่มพิเศษสำหรับรถโมบายเซอร์วิส ที่จะให้บริการพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้ากลุ่มพรีเมียม รวมไปถึงการเปิดศูนย์บริการพิเศษ เพื่อรองรับการให้บริการผู้บริโภคเพิ่มขึ้น” นางสาวธัญปภัสส์ กล่าว