กรมการค้าต่างประเทศเผยสถิติการค้าชายแดนและผ่านแดน ช่วง 6 เดือนปี 67 มีมูลค่า 912,283 ล้านบาท เพิ่ม 3.6% ด้านการค้าชายแดน ค้าขายกับ สปป.ลาวสูงสุด ตามด้วยมาเลเซีย เมียนมา และกัมพูชา ส่วนการค้าผ่านแดน ค้ากับจีนสูงสุด ตามด้วยสิงคโปร์และเวียดนาม
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สถิติการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน มิ.ย.2567 มีมูลค่า 162,008 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.05% เป็นการส่งออก 96,401 ล้านบาท ลดลง 0.89% การนำเข้า 65,607 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.33% ได้ดุลการค้า 30,793 ล้านบาท และยอดรวม 6 เดือนของปี 2567 (ม.ค.-มิ.ย.) มีมูลค่า 912,283 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.6% เป็นการส่งออก 534,316 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.1% การนำเข้า 377,968 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.3% ได้ดุลการค้า 156,348 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในช่วง 6 เดือน หากแยกเป็นการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ มีมูลค่า 493,470 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% เป็นการส่งออก 305,452 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.5% การนำเข้า 188,019 ล้านบาท ลดลง 4.6% ได้ดุลการค้า 117,433 ล้านบาท โดยการค้าชายแดนกับ สปป.ลาว มีมูลค่าสูงสุด 150,697 ล้านบาท รองลงมา คือ มาเลเซีย 149,361 ล้านบาท เมียนมา 106,630 ล้านบาท และกัมพูชา 86,783 ล้านบาท และสินค้าส่งออกชายแดนสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดีเซล 23,109 ล้านบาท น้ำมันสำเร็จรูปอื่น ๆ 10,432 ล้านบาท และน้ำยางข้น 8,221 ล้านบาท
ส่วนการค้าผ่านแดนไปประเทศที่สาม มีมูลค่า 418,813 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.8% เป็นการส่งออก 228,864 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.4% การนำเข้า 189,949 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.0% โดยการค้าผ่านแดนไปจีน มีมูลค่าสูงที่สุด 244,175 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.3% รองลงมาคือ สิงคโปร์ และเวียดนามมีมูลค่า 53,137 ล้านบาท ลดลง 10.3% และ 36,269 ล้านบาท ลดลง 6.6% ตามลำดับ และสินค้าส่งออกผ่านแดนสำคัญ ได้แก่ ทุเรียนสด 67,601 ล้านบาท ฮาร์ด ดิสก์ ไดรฟ์ 40,957 ล้านบาท และยางแท่ง TSNR 19,500 ล้านบาท
นายรณรงค์กล่าวว่า ตัวเลขการค้าชายแดนและผ่านแดนในช่วงครึ่งปี 2567 ที่ยังขยายตัวได้ดี เป็นเพราะสินค้าไทยยังเป็นที่ต้องการ และกรณีที่มีปัญหาการค้าเกิดขึ้น กรมได้เดินหน้าแก้ไขปัญหาตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการในทันที อาทิ สปป.ลาวออกมาตรการห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรที่ผลิตได้ สำหรับด่านท้องถิ่นและด่านประเพณี อนุญาตเฉพาะด่านสากลที่มีระบบกักกันพืชและสัตว์เท่านั้น ซึ่งไม่กระทบต่อภาคธุรกิจของไทย เพราะช่วยสกัดผู้นำเข้าที่ลักลอบขนสินค้าแบบผิดกฎหมาย และกรณีเกิดความไม่สงบในจังหวัดเมียววดี เมียนมา กรมได้ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาเส้นทางขนส่งอื่น ๆ ทดแทน เพื่อไม่ให้กระทบการค้า เช่น ด่านท่าเรือระนอง และด่านสิงขร จ.ประจวบคีรีขันธ์
นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าชายแดน โดยจัดงานมหกรรมการค้าชายแดนปี 2567 บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการค้าภายใน EXIM Bank SME Bank ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) จัดแสดงและจำหน่ายสินค้า ประชุมติดตามสถานการณ์การค้าชายแดน เจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ และสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าชายแดน โดยจัดไปแล้ว 2 ครั้ง ได้แก่ จ.มุกดาหาร วันที่ 29 ก.พ.-3 มี.ค.2567 และ จ.กาญจนบุรี วันที่ 27–30 มิ.ย.2567 และเตรียมจัดอีกที่ จ.สงขลา วันที่ 15–18 ส.ค.2567 โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานส่งเสริมการส่งออกมาเลเซีย (MATRADE) และบริษัท GISB Holdings ประเทศมาเลเซีย มาร่วมออกงาน