xs
xsm
sm
md
lg

RS ดึง “เอ ไชยา-แป้ง ศรันฉัตร์ มิตรชัย” ลุยตลาดน้ำพริกหมื่นล.แบรนด์“ปากท้อง”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - อาร์เอส ลิฟเวลล์ (RS LiveWell) จับมือ “ปากท้องต้องรู้ ดูแล้วร้วยรวย” รายการขวัญใจพ่อค้าแม่ขาย ทางช่อง 8 ภายใต้การผลิตของ อาร์เอส มัลติมีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ (RS Multimedia & Entertainment) พร้อมดัน เอ ไชยา-แป้ง ศรันฉัตร์ มิตรชัย ร่วมเป็นเจ้าของและพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกัน ภายใต้แบรนด์ “ปากท้อง” พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์แรก “น้ำพริกปากท้อง” 3 รสชาติ


การเติบโตของตลาดซอสปรุงรส น้ำจิ้ม และเครื่องปรุงรส ในประเทศไทย ซึ่งมีมูลค่ากว่า 5.7 หมื่นล้านบาท โดยในปี 2566 ภาพรวมตลาดโต 8% และมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ เทรนด์พฤติกรรมการกินของคนไทยที่เน้นความสะดวกสบายแต่ยังต้องมีประโยชน์ต่อสุขภาพ จึงทำให้เกิดนวัตกรรมทางด้านอาหาร รวมไปถึงเครื่องปรุงรส และเครื่องจิ้มต่างๆ เพื่อเพิ่มรสชาติในการรับประทานอาหารแต่ละมื้อ

ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้ RS LiveWell ซึ่งเป็นผู้สร้างสรรค์และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นวัตกรรมด้านสุขภาพอยู่แล้ว มองเห็นโอกาสต่อยอดและรุกเข้าสู่ตลาดนวัตกรรมอาหารที่เน้นคุณภาพและดีต่อสุขภาพได้ทันที ที่สำคัญ จากศักยภาพ ของ อาร์เอส กรุ๊ป ภายใต้โมเดลธุรกิจ Entertainmerce จึงทำให้ RS LiveWell เล็งเห็นว่า การทำ Co-Brand ระหว่างธุรกิจในเครือ เป็นจุดแข็งสำคัญในการดึงความเชี่ยวชาญและปลดล็อคศักยภาพของแต่ละธุรกิจในเครือออกมาใช้ เพื่อรุกเข้าสู่ประเภทสินค้าใหม่ๆ อย่าง ฟู้ดสแน็ค โดยเริ่มจากการจับมือกับ รายการ “ปากท้องต้องรู้ ดูแล้วร้วยรวย” ที่เป็นอีกหนึ่งคอนเทนต์ยอดนิยมขวัญใจพ่อค้าแม่ขาย ที่ออกอากาศทางช่อง 8 ซึ่งมีมีเดียเป็นของตนเองทั้งออนแอร์ ออนไลน์ และมีกิจกรรมออนกราวน์ที่แข็งแรง จนมีฐานผู้ติดตามหลายสิบล้านคน


จุดเด่นและความแตกต่างของแบรนด์ “ปากท้อง”
1. แบรนด์ “ปากท้อง” ไอเดียเกิดจากรายการ “ปากท้องต้องรู้ ดูแล้วร้วยรวย” ที่เป็นคอนเทนต์แนะนำร้านอาหารเด็ด อาชีพทำเงิน และสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่ออกอากาศผ่านทางช่อง 8 โดยมียอดผู้ติดตามทาง Youtube มากกว่า 16 ล้านคน Facebook 14 ล้านคน และ TikTok 935,000 คน

2. แบรนด์ “ปากท้อง” ได้ 2 พิธีกรคู่พ่อลูก เอ ไชยา และ แป้ง ศรันฉัตร์ มิตรชัย มาเป็นเจ้าของ โดยร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์กับทาง RS LiveWell และ RS Multimedia & Entertainment โดยทาง RS LiveWell รับหน้าที่พัฒนาสินค้าและจัดจำหน่าย ส่วน RS Multimedia & Entertinment รับหน้าที่ดูแลด้านการตลาดและโฆษณา ประชาสัมพันธ์ในสื่อของทางช่อง 8 และสื่อออนไลน์ ประเดิมด้วย “น้ำพริกปากท้อง” 3 รสชาติที่อร่อยเด็ดถึงเครื่อง แบบต้นตำรับ

3. น้ำพริกปากท้อง ได้คัดสรรคุณภาพปลาช่อนตามตำรับวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ เอ ไชยา มิตรชัย จึงมีเนื้อแน่น รสชาติหวานมัน ไม่มีกลิ่นดิน และไม่มีกลิ่นคาว ผ่านกรรมวิธีการปรุงที่พิถีพิถันใส่ใจในสุขภาพ ผ่านกรรมวิธีไล่น้ำมัน 2 ขั้นตอน ด้วยการสลัดและอบ จนกรอบนอก ฉ่ำใน แกะเนื้อปลาเน้นๆ ไร้ก้าง คลุกเคล้ากับเครื่องสมุนไพรที่ผ่านการคั่วอบกับเนื้อปลาจนได้เป็นน้ำพริกรสเด็ดจัดจ้านที่ไม่เหมือนใคร ตามสูตรดั้งเดิมของ ‘เอ ไชยา’ มีทั้งหมด 3 รสชาติ ได้แก่ ปากท้อง น้ำพริกปลาช่อนต้มยำ หอมใบมะกรูด เปรี้ยวถึงใจ แซ่บถึงรสต้มยำ, ปากท้อง น้ำพริกปลาช่อนไข่เค็ม หอมมัน กลมกล่อม อร่อยนัว จนหยุดไม่ได้ และปากท้อง น้ำพริกปลาสลิด สูตรต้นตำรับ หอมสมุนไพร ชิ้นปลาเต็มคำ เต็มปาก

ส่วนโปรโมชั่นช่วงเปิดตัวแบรนด์น้ำพริกปากท้อง จัดเซตโปรเปิดตัวจำนวน 4 กระปุก (ประกอบด้วยรสชาติปลาช่อนต้มยำ 1 กระปุก, ปลาช่อนไข่เค็ม 1 กระปุก และปลาสลิดต้นตำรับอีก 2 กระปุก) จากราคาปกติ 1,196 บาท ขาย 990 บาท ทุกออเดอร์จัดส่งฟรี และสามารถเลือกบริการเก็บเงินปลายทางได้


กำลังโหลดความคิดเห็น