“สุชาติ” เป็นประธานการประชุมระดมสมองภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ภาคตะวันออก เพื่อจัดทำร่างแผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติ ปี 68-70 เผยจะลุยขับเคลื่อน 5 ด้าน ยกระดับส่งออก พัฒนาการค้า SME การค้าสินค้าเกษตร อุตสาหกรรม และบริการ
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนของจังหวัดในภาคตะวันออก เพื่อจัดทำร่างแผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติ พ.ศ.2568–2570 ที่โรงแรมโนโวเทล มารีน่า ศรีราชา แอนด์ เกาะสีชัง จ.ชลบุรี ว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ได้จัดทำแผนที่จะนำมาใช้ในการกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าของประเทศให้เป็นเอกภาพ โดยได้มีการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนให้มีเป้าหมายเดียวกัน และขณะนี้อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อร่างแผนปฏิบัติการดังกล่าว เพื่อให้สามารถนำมาใช้ในการพัฒนา ส่งเสริม ยกระดับ และแก้ไขปัญหาของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายทั้งประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการ ตลอดจนขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าของประเทศในระยะ 3 ปีข้างหน้า
โดยร่างแผนปฏิบัติการดังกล่าว ประกอบด้วยข้อเสนอสำคัญ 5 เรื่อง ได้แก่ 1.การพัฒนาและยกระดับการส่งออกของไทย 2.การพัฒนาการค้าของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) 3.การค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร 4.การค้าสินค้าอุตสาหกรรม และ 5.การค้าธุรกิจบริการ
สำหรับรายละเอียดในแต่ละแผนปฏิบัติการ ในด้านการพัฒนาและยกระดับการส่งออกของไทย มีเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของสินค้าไทยในตลาดโลก เพิ่มสัดส่วนการส่งออกของสินค้าอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง ตลอดจนเพิ่มสัดส่วนการค้ากับคู่ค้าที่ไทยมีข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ด้านการพัฒนาการค้าของ SME มีเป้าหมายที่จะทำให้ธุรกิจ SME มีสัดส่วนมูลค่าทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 40% ต่อ GDP และมูลค่าส่งออกของ SMEs อยู่ที่ 20% ต่อมูลค่าส่งออกรวม ด้านการค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร มีเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการส่งออกของสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรให้เติบโตมากกว่าปัจจุบัน ด้านการค้าสินค้าอุตสาหกรรม มีเป้าหมายเพิ่มอัตราการขยายตัวของ GDP ผลิตภาพรวม และมูลค่าการส่งออกของภาคอุตสาหกรรม และด้านการค้าธุรกิจบริการ มีเป้าหมายเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของภาคธุรกิจบริการผ่านการค้าทั้งภายในประเทศและการค้าระหว่างประเทศ ตลอดจนลดข้อจำกัดทางการค้าของภาคบริการ
ทั้งนี้ การจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อร่างแผนปฏิบัติการดังกล่าว ได้ดำเนินการไปแล้วที่ จ.เชียงใหม่ ขอนแก่น พระนครศรีอยุธยา และในครั้งนี้ มีหน่วยงานภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐจาก 8 จังหวัดเข้าร่วม ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ตราด ปราจีนบุรี นครนายก และสระแก้ว โดยในการประชุมครั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้กล่าวถึงการพัฒนาจังหวัดชลบุรีให้เป็นพื้นที่ที่รองรับการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่จะเข้ามารองรับการผลักดันทางเศรษฐกิจ ทั้งภาคเกษตร อุตสาหกรรม และบริการ ในขณะที่หน่วยงานในพื้นที่ต่างแสดงความเห็นและให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ซึ่งจะนำไปพัฒนาและปรับปรุงแผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติ พ.ศ.2568-2570 ให้มีความสมบูรณ์รอบด้าน ทันต่อบริบทการค้าของโลกสมัยใหม่ และจะนำเสนอแผนปฏิบัติการต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อพิจารณา ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอความเห็นชอบและประกาศใช้อย่างเป็นทางการต่อไป