xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.สผ.โชว์กำไรครึ่งปีแรกแตะ 4.26 หมื่นล้าน จ่ายปันผลระหว่างกาล 4.50 บาท/หุ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปตท.สผ.โชว์กำไรสุทธิงวด 6 เดือนแรกปีนี้อยู่ที่ 42,660 ล้านบาท มาจากปริมาณขายปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 489,879 บาร์เรลต่อวัน แต่ราคาขายปิโตรเลียมอ่อนตัวลงเล็กน้อย ด้านบอร์ดฯ ไฟเขียวจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 4.50 บาทต่อหุ้น

นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยผลประกอบการในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2567 ว่า ปตท.สผ.มีรายได้รวม 166,887 ล้านบาท หรือเทียบเท่า 4,608 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยอยู่ที่ 489,879 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มอัตราการผลิตปิโตรเลียมของโครงการ G1/61 สู่ระดับ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันตามสัญญาแบ่งปันผลผลิต ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ส่วนราคาขายผลิตภัณฑ์ปรับตัวลงเล็กน้อยจากราคาขายก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลดลง โดยในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีกำไรสุทธิ 42,660 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.80 เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 40,321ล้านบาท และมีต้นทุนต่อหน่วย (Unit Cost) อยู่ที่ 28.6 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ โดยมีอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคาที่ร้อยละ 76

ส่วนงวดไตรมาส 2/2567 ปตท.สผ.มีรายได้รวม 2,412 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า 88,532 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 ที่มีรายได้รวม 2,074 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า 71,477 ล้านบาท โดยมีกําไรจากการดําเนินงานปกติในไตรมาส 2 ปี 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 สอดคล้องกับปริมาณขายเฉลี่ยต่อวันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 มาอยู่ที่ 506,709 บาร์เรลเทียบเท่าน้ํามันดิบต่อวัน รวมทั้งราคาขายเฉลี่ยของบริษัทเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 มาอยู่ที่ 47.01 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ํามันดิบ ส่งผลให้ ปตท.สผ.มีกําไรสุทธิในไตรมาส 2 ปี 2567 อยู่ที่ 653 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า 23,978 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 จากไตรมาส 2 ปี 2566 ที่มีกําไรสุทธิ 610 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า 21,040 ล้านบาท


นายมนตรีกล่าวว่า ในครึ่งแรกของปี 2567 ปตท.สผ.มีความคืบหน้าที่สำคัญในส่วนธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม โดยได้ขยายฐานการลงทุนในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) จากการเข้าซื้อสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 10 ในแปลงสัมปทานกาชา หนึ่งในแหล่งก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของยูเออี ซึ่งสามารถเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมให้บริษัทได้ทันที และช่วยเสริมประโยชน์และประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการร่วมกับโครงการสำรวจอื่นๆ ซึ่งบริษัทมีการลงทุนอยู่แล้วในยูเออี โดยคาดว่าแปลงสัมปทานกาชาจะมีปริมาณการผลิตก๊าซฯ ประมาณ 1,500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันภายในปี 2573 และมีแผนที่จะทำการดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ประมาณ 1.5 ล้านตันต่อปี เพื่อสนับสนุนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์อีกด้วย

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 มีมติอนุมัติเสนอจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก ปี 2567 ที่ 4.50 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวันให้สิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) เพื่อรับสิทธิในการรับเงินปันผลวันที่ 14 สิงหาคม 2567 และจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 28 สิงหาคม 2567

อย่างไรก็ดี ในรอบครึ่งปีแรกของปี 2567 ปตท.สผ.ได้นำส่งรายได้ให้กับรัฐในรูปของภาษีเงินได้ ค่าภาคหลวง และส่วนแบ่งผลประโยชน์อื่นๆ จำนวนกว่า 30,170 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศด้านต่างๆ เช่น การพัฒนาชุมชน การศึกษา และการวิจัยและพัฒนา เป็นต้น นอกจากนี้ ส่วนแบ่งของผลผลิตปิโตรเลียมจากโครงการ G1/61 และ G2/61 ภายใต้สัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) ยังเป็นรายได้อีกส่วนหนึ่งที่รัฐได้รับโดยตรงจากการผลิตปิโตรเลียม เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศอีกด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น