xs
xsm
sm
md
lg

OR สยายปีกลุยธุรกิจในต่างประเทศ อัดฉีดงบ 5 ปี 8 พันล้าน ย้ำลาวมีศักยภาพโต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก” ติดเครื่องรุกธุรกิจในต่างประเทศเต็มสูบในการขยายสถานีบริการน้ำมันพีทีที สเตชั่น และร้านคาเฟ่ อเมซอน โดยเน้นจับมือกับพันธมิตรทสร้างการเติบโตร่วมกันหนุนรายได้จากกลุ่มธุรกิจGlobalเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีกจำกัด (มหาชน) (OR) กล่าวถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ บริษัทจะเร่งขยายธุรกิจในต่างประเทศมากขึ้น โดยนำ Business Model ที่ประสบความสำเร็จจากประเทศไทยมาใช้ในประเทศต่างๆที่ORเข้าไปลงทุน ไม่ว่าจะเป็นสถานีบริการน้ำมันพีทีที สเตชั่น (PTT Station) และร้านคาเฟ่ อเมซอน โดยเป็นการลงทุนและบริหารจัดการจากนักลงทุนหรือดีลเลอร์ท้องถิ่นเป็นส่วนใหญ่ราว 80% ขณะเดียวกันบริษัทก็แสวงหาพันธมิตรที่ดีเพื่อสร้างการเติบโตร่วมกันในธุรกิจต่างๆ


เมื่อเร็วๆ นี้ เราผ่านแผนยุทธศาสตร์และทิศทางในอนาคต (Strategic Thinking Session : STS) ในปี 2567-2573 ที่วางแนวทางการขยายธุรกิจต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นที่กัมพูชา สปป.ลาว เวียดนาม และฟิลิปปินส์ รวมไปถึงการทำธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ Global Marketing การซื้อมาขายไป การขยายธุรกิจร้านคาเฟ่ อเมซอนผ่านการจับมือกับพันธมิตรในท้องถิ่นที่มีศักยภาพ สร้างการเติบโตร่วมกัน ภายหลังจากการเติบโตของตลาดภายในประเทศไทยเริ่มอิ่มตัว

สำหรับงบลงทุน 5 ปีนี้ (2567-71) OR ตั้งงบลงทุนอยู่ที่ 67,396.3 ล้านบาท แบ่งตามกลุ่มธุรกิจหลัก คือ กลุ่มธุรกิจ Mobility จำนวน 36,266.4 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 53.8% ของงบลงทุน กลุ่มธุรกิจ Lifestyle จำนวน 17,944.5 ล้านบาท คิดเป็น 26.6% กลุ่มธุรกิจ Global จำนวน 8,007.4 ล้านบาท คิดเป็น 11.9% และกลุ่มธุรกิจ Innovation & New Business จำนวน 5,178 ล้านบาท คิดเป็น 7.7% รวมทั้งกำหนดงบลงทุนในอนาคต (Provisional Capital Expenditure) ในระยะ 5 ปีนี้อีก 15,942.5 ล้านบาท เพื่อใช้ขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์บริษัท

ในปี 2567 OR ได้จัดสรรงบลงทุนอยู่ที่ 23,186.4 ล้านบาท ส่วนใหญ่ลงทุนในกลุ่มธุรกิจ Lifestyle 10,144.4 ล้านบาท กลุ่มธุรกิจ Mobility 8,823.6 ล้านบาท กลุ่มธุรกิจ Innovation & New Business 2,126.2 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจ Global 2,091.2 ล้านบาท


กลุ่ม Global กำงบ 8 พันล.เร่งขยายธุรกิจในตปท.

นายรชา อุทัยจันทร์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านธุรกิจต่างประเทศ OR กล่าวว่า งบลงทุนกลุ่มธุรกิจ Global ใน 5 ปีนี้ที่ตั้งไว้ 8,007.4 ล้านบาท ส่วนใหญ่เน้นลงทุนในประเทศกัมพูชา ซึ่งถือเป็นบ้านหลังที่2 ของ OR มีการใช้กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจทั้งกลุ่มธุรกิจ Mobility ได้แก่ การจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการพีทีที สเตชั่น มีคลังน้ำมันให้เพียงพอกับตลาดน้ำมันที่ขยายตัว การทำตลาดน้ำมันหล่อลื่น และศูนย์บริการยานยนต์ฟิต ออโต้ รวมถึงการขยายตลาดน้ำมันอุตสาหกรรม ฯลฯ ส่วนกลุ่มธุรกิจ Lifestyle ก็เร่งเปิดร้านคาเฟ่ อเมซอน ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น(7-11) รวมถึงการดึงร้านอาหารและร้านค้าจากไทยมาเปิดสาขาที่กัมพูชา ขณะเดียวกัน คอนเซ็ปต์การทำธุรกิจในต่างประเทศจะเน้นการจับมือกับพันธมิตรท้องถิ่นทำให้ OR เติบโตอย่างมั่นคง

ล่าสุด OR เตรียมขยายคลังน้ำมันเพิ่มเติมในกัมพูชาจากปัจจุบันมี 7 แห่ง แบ่งเป็น 4 แห่งเป็นคลังเก็บน้ำมันสำเร็จรูป และ 2 แห่งเป็นคลังเก็บน้ำมันอากาศยาน (JET-A1) ความจุรวมทั้งสิ้น 38.5 ล้านลิตร ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดหาทำเลที่ตั้งคลังน้ำมันอยู่ที่เมืองสีหนุวิลล์ รวมทั้งศึกษาทำคลังก๊าซหุงต้ม (LPG) ในกัมพูชาด้วย


แผนระยะสั้นเน้นประคองธุรกิจในลาวให้รอด

เช่นเดียวกับที่ สปป.ลาว แม้ว่าจะเป็นประเทศมีจำนวนประชากรที่น้อยกว่ากัมพูชา แต่ก็เป็นประเทศที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจและมีโอกาสเติบโตอีกมาก และที่สำคัญเป็นในอีก 1-2 ปีนี้ ไทยมีกำลังการกลั่นน้ำมันเกินความต้องการใช้ภายในประเทศ เกิดจากโรงกลั่นไทยออยล์มีการลงทุนโครงการพลังงานสะอาด (CFP) เพื่อรองรับการผลิตน้ำมันได้ตามมาตรฐานยูโร 5 และมีการขยายกำลังการกลั่นเพิ่มขึ้นจากวันละ 2.75 แสนบาร์เรลเป็น 4 แสนบาร์เรลต่อวัน ดังนั้น OR ต้องเตรียมพร้อมส่งน้ำมันไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้านที่ต้องนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นลาวและกัมพูชา เพื่อเป็นช่องทางรับน้ำมันสำเร็จรูปส่วนเกินจากไทย ซึ่งทั้งสองประเทศไทยมีความได้เปรียบคู่แข่งด้านการขนส่งที่ถูกกว่าคู่แข่ง

อย่างไรก็ดี เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจลาวยังมีความผันผวนและค่าเงินกีบอ่อนค่า ดังนั้นกลยุทธ์การทำธุรกิจในระยะสั้นจะมุ่งเน้นประคองธุรกิจให้อยู่รอด จะยังไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่ส่วนในระยะยาวเน้นกลยุทธ์ Explore มองหาโอกาสการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เช่น OR รุกธุรกิจส่งออกเมล็ดกาแฟ (Roasted Coffee and Green Bean Coffee) ให้แก่บริษัทในเครือของ OR ทั้งในไทย กัมพูชาและฟิลิปปินส์ รวมทั้งธุรกิจอื่นๆ อีกด้วย

ทั้งนี้ การขยายสถานีบริการน้ำมันพีทีที สเตชั่นในลาวจะอาศัยพันธมิตรท้องถิ่นในการขยายสาขา จะเลือกทำเลที่เหมาะสม (Strategic Location) เพื่อให้มียอดขายน้ำมันต่อสาขาสูงคุ้มค่าการลงทุน รวมทั้งจะมีการบริหารการเงินในองค์กรทั้งรายรับรายจ่ายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน

สำหรับเวียดนาม ปัจจุบัน OR ร่วมกับพันธมิตรคือ เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป หรือ CRG ในการตั้งบริษัท ORC Coffee Passion Group Joint Stock Company หรือ ORCG เพื่อดำเนินธุรกิจ Café Amazon เปิดแล้วจำนวน 25 สาขาในเวียดนามและอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนคลัง LPG เพื่อเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมด้วย โดยยอมรับว่าอดีตปตท.เคยร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่นทำธุรกิจ LPG ภาคครัวเรือนก่อนที่จะถอนการลงทุนออกมา ส่วนธุรกิจน้ำมันยังไม่สามารถเข้าไปได้เพราะเวียดนามยังไม่เปิดให้ต่างชาติลงทุน

ส่วนประเทศเมียนมา OR ชะลอการลงทุนไปก่อนหลังจากเมียนมาเกิดความไม่สงบภายในประเทศ ขณะที่สิงคโปร์ ก็ยังไม่มีการลงทุนเปิดร้านคาเฟ่ อเมซอนเพิ่ม หลังจากสิ้นสุดสัญาเช่าพื้นที่ในสนามบิน โดยยอมรับว่าเป็นจังหวะการลงทุนที่ไม่ดีเจอโรคโควิดจนต้องปิดไป

ปัจจุบัน OR มีสัดส่วนรายได้ในต่างประเทศ หลักๆ มาจากประเทศกัมพูชามากเป็นอันดับแรก รองลงมาคือฟิลิปปินส์ และสปป.ลาว สอดคล้องกับตามตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และจำนวนประชากร

สำหรับแผนการทำตลาดน้ำมันค้าปลีกในต่างประเทศนั้น OR วาง position ว่าไม่ต้องการเป็นบริษัทน้ำมันที่มีส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์) ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของประเทศที่เข้าไปลงทุน แต่จะขอให้มาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับ 2 ควบคู่กับการขยายธุรกิจ Lifestyle ในสถานีบริการน้ำมันเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ


นายพีรเวท ณ ระนอง Managing Director บริษัท พีทีที (ลาว) จำกัด (PTTLAO) กล่าวว่า กลยุทธ์ของ PTTLAO มุ่งเสริมความแข็งแกร่งในตลาด สปป.ลาว พร้อมขยายฐานธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาธุรกิจของ PTTLAO ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ทำให้ยังคงเดินหน้าแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ โดยร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นที่ที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจ Mobility PTTLAO มีเครือข่ายคลังเก็บน้ำมัน 7 แห่ง รองรับการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยความจุโดยรวมกว่า 7 ล้านลิตร รวมทั้งยังมีสถานีบริการรวม 56 แห่ง แบ่งเป็นปั๊มที่บริษัทบริหารและลงทุนเอง (COCO) 17 แห่ง และดีลเลอร์บริหารและลงทุนเอง (DODO) 39 แห่ง ครอบคลุมตลอดเส้นทางการเดินทางในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายขยายสถานีบริการเพิ่มเป็น 63 แห่ง และจะเพิ่มขึ้นเป็น 71 แห่งในปี 2573

ธุรกิจหล่อลื่น PTT Lubricants มียอดจำหน่ายปี 2566 อยู่ที่ 4.2 ล้านลิตร และปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 5 ล้านลิตร ส่วนศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto และ FIT Express ปัจจุบันมีทั้งหมด จำนวน 9 สาขา

กลุ่มธุรกิจ Lifestyle ร้านคาเฟ่ อเมซอน เป็นร้านแฟรนไชส์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในลาว มีจำนวนทั้งสิ้น 94 สาขา และตั้งเป้าขยายสาขาให้ครบ 110 สาขาภายในสิ้นปี 2567 และเพิ่มเป็น 150 สาขา ภายในปี 2573 โดยมีการเปิดร้านคาเฟ่ อเมซอน คอนเซ็ปต์ สโตร์ (Cafe Amazon Concept Store) สาขาโรงกายะสิน ณ เมืองจันทะบูลี นครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งนับเป็น Cafe Amazon Concept Store แห่งแรกในต่างประเทศ โดยมีเมนูเครื่องดื่มที่พิเศษจำหน่ายในสาขานี้ โดยได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี


นอกจากนี้ PTTLAO ได้เปิดร้านสะดวกซื้อ Jiffy ในสถานีบริการน้ำมันรวม 35 สาขา โดยเรามีแผนจะนำร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น (7-11) มาเปิดในสถานีบริการน้ำมันพีทีที สเตชั่นภายในปี 2567 โดยมีแผนเปิดให้บริการสาขาแรกในต้นเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากนั้นจะทยอยเปิดทดแทนร้าน Jiffy ให้ครบทั้ง 35 สาขาภายใน 2 ปีข้างหน้า เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันในประเทศไทย ส่วนธุรกิจร้านอาหาร ได้มีการจัดหาและคัดเลือกร้านอาหารที่มีคุณภาพ เพื่อให้บริการในสถานีน้ำมัน จึงเลือกร้านอาหารข้าวเปียกปู ปากเซ ที่ PTTLAO พัฒนาขึ้นเป็นแบรนด์ใหม่

ขณะเดียวกันด้วยการติดตั้งและเปิดให้บริการสถานีชาร์จ EV Station PluZ จำนวน 6 แห่ง ในสถานีบริการน้ำมันด้วย ซึ่งลาวมีรถอีวีอยู่ 3,700คัน โดยORมีแผนเปิดสถานีชาร์จอีวีเพิ่มขึ้นเป็น 12 แห่งในปีนี้ และปีถัดไปเพิ่มเป็น 18 แห่ง รองรับสู่Seamless Mobility

สำหรับงบลงทุนในลาวปีนี้จะใช้งบลงทุนไม่มากนักส่วนใหญ่ยังคงเป็นงบปรับปรุงคลังน้ำมันประมาณ 40 ล้านบาท ขณะที่การขยายสถานีบริการน้ำมันจะส่วนใหญ่จะเป็นของดีลเลอร์ ส่วนการขยายร้านคาเฟ่ อเมซอน จะใช้ประมาณ 18 ล้านบาท และจะมีการลงทุนร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่นจำนวน 4 สาขา เงินลงทุน 30 ล้านบาท

ส่วนรายได้ PTTLAO ปีนี้คาดว่าเติบโตขึ้นตามปริมาณการขายน้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำมันพีทีที สเตชั่น และร้านคาเฟ่ อเมซอนที่ สปป.ลาวที่ตั้งเป้าโต 4% เมื่อเทียบกับปีก่อน

นายพีรเวทกล่าวต่อว่า บริษัทศึกษาจะทำธุรกิจLNGเจาะกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม โดยนำLNGทดแทนการใช้น้ำมันเตาและดีเซล ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดมลภาวะ คาดว่าจะมีความชัดเจนในปีนี้


ชงบอร์ดไฟเขียว Café Amazon Park

นายดิษทัตกล่าวย้ำว่า บริษัทฯ เตรียมพาคณะกรรมการบริษัทไปเยี่ยมชมพื้นที่ทำโครงการ Café Amazon Park บนพื้นที่ราว 600 ไร่ จังหวัดลำปาง เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์รวมด้านอุตสาหกรรมกาแฟระดับโลก คาดจะขออนุมัติการลงทุนในช่วงเดือนตุลาคมนี้

โครงการดังกล่าวเป็นการสร้างระบบนิเวศน์การพัฒนา Value Chain ธุรกิจกาแฟแบบครบวงจร เพื่อสร้างความเข้มแข็งตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำโดยแบ่งการพัฒนาในระยะแรก 300 ไร่ สำหรับการปลูกและวิจัยกาแฟ เริ่มต้นจากการค้นหาสายพันธุ์กาแฟที่ดีที่สุดมาเพาะปลูก และส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกต่อยอด เชื่อมั่นว่าจะช่วยดึงดูดการลงทุนของนักธุรกิจทั่วโลกได้อย่างมาก นับเป็นการสร้างสตอรี่ขยายตลาดไปในต่างประเทศ


กำลังโหลดความคิดเห็น