“สุริยะ” สั่ง ทล.ศึกษาเส้นทางถนนแนวใหม่วงแหวนรอบเมืองชัยภูมิ ยาว 52 กม.แก้ปัญหาจราจร และน้ำท่วม หนุนเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว เติมโครงข่ายเชื่อมภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และอีสาน สมบูรณ์ไร้รอยต่อและมีความปลอดภัยสูงสุด
เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2567 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจโครงข่ายคมนาคมจังหวัดชัยภูมิในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ พื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง โดยมีผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนายศิวะ พงศ์ธีระดุลย์ นายเชิงชาย ชาลีรินทร์ และนายโอชิษฐ์ เกียรติก้องชูชัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ ให้ข้อมูล
นายสุริยะกล่าวว่า ได้ให้นโยบายในการแก้ไขปัญหาการคมนาคมขนส่งทางบก โดยเฉพาะเส้นทางสายหลักที่ยังเป็นขนาด 2 ช่องจราจร ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาให้เป็น 4 ช่องจราจร เพื่อรองรับปริมาณจราจรที่สูงขึ้น การขยายตัวของเขตชุมชน การเดินทางขนส่งสินค้า และการท่องเที่ยวของจังหวัดชัยภูมิ
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้กรมทางหลวง (ทล.) เร่งศึกษาความเป็นไปได้โครงการก่อสร้างทางแนวใหม่ หรือถนนวงแหวนรอบเมืองชัยภูมิ รอบที่ 2 ระยะทาง 52 กิโลเมตร ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้รับการก่อสร้างวงแหวนรอบเมืองเพื่อพัฒนาโครงข่ายการเดินทางที่สามารถเชื่อมต่อทางสายหลักโดยตรงไม่ต้องเดินทางมาที่ตัวเมือง โครงการดังกล่าวนอกจากจะเป็นการพัฒนาเพิ่มศักยภาพโครงข่ายการขนส่งให้สมบูรณ์ขึ้นแล้ว ยังสามารถร่วมใช้พื้นที่เขตทางก่อสร้างคลองระบายน้ำเพื่อช่วยป้องกันหรือบรรเทาปัญหาน้ำท่วม และก่อสร้างทางจักรยานตลอดจนงานภูมิทัศน์ต่างๆ เพื่อเพิ่มทัศนียภาพให้สวยงามเพื่อให้จังหวัดชัยภูมิเป็นเมืองที่น่าอยู่อาศัยอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย
นายสุริยะกล่าวว่า จังหวัดชัยภูมิเป็นจังหวัดที่สำคัญในด้านการเชื่อมต่อกับภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ของประเทศ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในทุกมิติ โดยเฉพาะการคมนาคมขนส่งที่เน้นเรื่องความสะดวก รวดเร็ว และต้องให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชนที่ต้องเดินทางในทุกโครงข่าย และจากการติดตามความคืบหน้าปัญหา อุปสรรค และผลสำเร็จในการพัฒนาระบบการขนส่งพื้นที่
“ผมได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานผลักดันโครงการต่างๆ ให้เกิดผลสัมฤทธิ์โดยเร็ว เพื่อส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว รวมถึงคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ให้มีความสมบูรณ์ไร้รอยต่อภายใต้มาตรฐานที่เป็นสากล มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยสูงสุด”