บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPI นำโดย คุณวิชัย กุลสมภพ ประธานประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SPI และดำรงตำแหน่งประธานสมาคมศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีแห่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคุณเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เปิดเวที ‘SPI CEO VIZ TALK’ รวม 2 ผู้นำเป็นครั้งแรกในหัวข้อ ‘Awaken Your Magic’ ค้นหาความพิเศษในตัวคุณ โดยชวนพนักงานกลุ่มบริษัทในเครือสหพัฒน์ และยังเปิดกว้างให้ผู้ที่สนใจมาร่วมฟังด้วย ไม่ว่าจะเป็นพาร์ทเนอร์, นิสิต และบุคลากรของคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ กว่า 400 ชีวิต พูดคุยอย่างใกล้ชิดถึงแนวคิดการเป็นผู้นำ CEO Insight ที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน
การโคจรมาพบกันของสองผู้นำที่มีความแข็งแกร่งและเชี่ยวชาญในสายงานของตัวเอง จะก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมต่อสังคมในวงกว้าง ทั้งจากประสบการณ์และวิสัยทัศน์ของ คุณวิชัย กุลสมภพ ซึ่งเปรียบเสมือนแม่ทัพที่ขับเคลื่อนองค์กรระดับตำนานของไทย และในฐานะนายกสมาคมนิสิตเก่าฯ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีแห่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับคณะสังคมและประเทศมาโดยตลอด ในขณะที่ คุณเรืองโรจน์ พูนผลคือหัวหอกคนสำคัญแห่งโลกเทคโนโลยีและอนาคตที่เปี่ยมไปด้วยวิสัยทัศน์ของผู้นำแห่งโลกยุคใหม่ ร่วมผนึกกำลังส่งต่อผ่าน 4 บทเรียนสำคัญ เพื่อสร้างภาวะผู้นำและค้นหาพลังพิเศษของตัวเอง
1. หลักคิด...เบื้องหลังการทำทุกงานให้ประสบความสำเร็จ
คุณวิชัย กุลสมภพ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SPI กล่าวว่า “แนวคิดการทำงานให้ประสบความสำเร็จที่ผมคิดขึ้นเองและปฏิบัติตั้งแต่วันที่เข้ามารับตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดขององค์กรในเครือสหพัฒน์ คือ สานต่อ ทอฝัน สร้างสรรค์ ปั้นดาว คำว่า ‘สานต่อ’ ก็คือสานต่องานที่ผู้ใหญ่เคยทำมา ‘ทอฝัน’ หมายถึงการทำฝันของผู้ก่อตั้งให้สำเร็จ แต่จะทำให้สำเร็จได้จะต้องไม่หยุด ‘สร้างสรรค์’ สิ่งใหม่ๆ สุดท้ายคือ ‘ปั้นดาว’ ผมไม่สามารถดูแลบริษัทในเครือได้ด้วยตัวคนเดียวและจะทำแต่ธุรกิจเดิมๆ ในโลกยุคใหม่ไม่ได้ จะต้องปั้นธุรกิจใหม่ขึ้นมาให้เป็นดาว และปั้นพนักงานที่มีศักยภาพให้เป็นดาว”
“นอกจากแนวคิดข้างต้น ผมยังนำ 3 คำที่พ่อสอนมาใช้เตือนใจตัวเอง และเป็นสิ่งที่ผมอยากส่งต่อให้กับพนักงานทุกคน นั่นก็คือ ‘ทำงาน ทำบุญ ทำใจ’ ทั้ง 3 คำมีความหมายในตัว โดยเฉพาะคำว่า ‘ทำใจ’ การทำใจในนิยามของผมคือ ยามปกติ ทำใจให้กว้าง ยามสงบทำใจให้นิ่ง ยามสุข ทำใจให้ใสกระจ่าง ยามทุกข์ ทำใจให้เบา ยามเศร้า ทำใจไม่ให้ขุ่นมัว ยามผิดหวัง ทำใจให้เป็นกลาง ยามวิกฤต ทำใจให้เข้มแข็งและในทุกยามพยายามทำใจให้บริสุทธิ์อยู่เสมอ ถ้าคุณทำใจได้ตามนี้คุณจะทำงานอะไรก็มีโอกาสประสบความสำเร็จ” คุณวิชัยกล่าว
สำหรับหลักคิดและแนวทางการทำงานสไตล์ คุณเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) คือ ความกล้าที่จะก้าวออกจาก Comfort Zone เพื่อพาตัวเองไปสู่ Growth Zone “ถ้ายังทำเท่าเดิมคุณก็อยู่แต่ใน Comfort Zone เมื่อไรที่คุณออกจากโซนนี้จะเข้าสู่ Fear Zone คุณจะกลับไปจุดเดิมก็ได้นะ แต่คุณจะไม่พัฒนา และโลกยุคนี้ถ้าคุณไม่พัฒนาเท่ากับว่าคุณถอยหลังไปแล้ว วิธีที่คุณจะออกจาก Fear Zone ได้ต้องกระโดดเข้าไปใน Learning Zone เข้าไปเรียนรู้และลงมือทำสิ่งใหม่ๆ วันที่คุณออกจากโซนนี้ ประตูของ Growth Zone จะเปิดต้อนรับคุณ”
2. หลักคิด...ฝ่าวิกฤตแบบผู้นำ
คุณวิชัยกล่าวว่า ในฐานะผู้นำที่ต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตอยู่เสมอ การเตรียมความพร้อม เป็นสิ่งสำคัญ “ความเป็นผู้นำไม่มีใครได้มาโดยบังเอิญ คุณต้องเตรียมตัวให้พร้อม ไม่มีใครบอกคุณล่วงหน้าหรอกว่าคุณจะต้องทำหน้าที่นั้นหรือต้องรับมือกับอะไร แต่เมื่อไรที่ถูกเลือกคุณต้องพร้อม และต้องทำให้ทีมงานเชื่อว่าคุณทำได้ เพราะวิกฤตคือเวทีพิสูจน์ความเป็นผู้นำ
สิ่งหนึ่งที่ผมเรียนรู้จากการทำงานกับผู้ใหญ่ในเครือสหพัฒน์ คือการเตรียมตัวและเตรียมคน การที่เราจะเลือกใครเป็นผู้บริหาร ต้องรู้จักใช้คำว่า “ชุบ แช่ ขัด” ให้ถูกเวลา กล่าวคือ หากใครยังไม่พร้อม อาจต้องวางตัวในส่วนงานที่ทำให้เก่งขึ้นก่อน เป็นการชุบตัว หรือ แช่ไว้กับงานที่ยังไม่ทำให้เกิดความเสียหายก่อน จนเห็นว่ามีโอกาสที่ดีแล้วใกล้จะถึงเวลาฉายแสงแล้ว จึงนำมาขัดให้เปล่งประกาย
ด้านคุณเรืองโรจน์บอกว่า “ถ้าเมื่อไรที่ชีวิตคุณเจอวิกฤต จงโอบกอดวิกฤตราวกับเป็นคู่ชีวิตของคุณ ตอนนี้เราอยู่ในยุคที่โลกเต็มไปด้วยวิกฤต แต่จงจำไว้ว่าทุกครั้งที่มีวิกฤต มันมีโอกาสที่ยิ่งใหญ่กว่าเสมอ”
คุณเรืองโรจน์ยกตัวอย่างวันที่เขามาทำงานที่ KBTG เป็นช่วงที่กำลังพัฒนาแอปฯ K PLUS ซึ่งก่อนที่เขาจะเข้ามาทำงานระบบเคยล่มและนักข่าวเพิ่งถามว่า แอปฯ จะล่มอีกหรือไม่ เขาตอบอย่างมั่นใจว่าไม่ล่มแน่นอน แต่หลังจากนั้นไม่ถึงชั่วโมงระบบล่มทันที
“วิกฤตครั้งนั้นกะเทาะอีโก้ผมหมดสิ้น แล้วใช้โอกาสนั้นพลิกเกม KBTG ทั้งหมด จนถึงวันนี้ แอปฯ K PLUS เป็นแอปฯ ที่มีเสถียรภาพมากที่สุดในประเทศไทย ผมกล้าบอกเลยว่าถ้าไม่เกิดวิกฤตวันนั้นผมไม่มีทางมาถึงจุดนี้ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาทุกครั้งที่เกิดวิกฤตผมถามตัวเองเสมอว่าจะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่กว่าอย่างไร”
3. หลักคิด...ผู้นำที่จะชนะและรอดในยุค Turbulent Times
คุณเรืองโรจน์บอกว่า ตอนนี้เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุค Turbulent Times ผู้นำที่จะชนะและรอดในโลกยุคนี้ได้ต้องมี Humanity & Empathy “จงถ่อมตัวอยู่เสมอ อย่าทะนงตนและทำให้เป็นน้ำครึ่งแก้ว จงเรียนรู้ และยอมรับว่าเราไม่รู้ หาคนเก่งมาเสริมทัพ และเรียนรู้จากเขา ที่สำคัญต้องเป็นผู้นำที่มีความเห็นอกเห็นใจและใส่ใจเพื่อนมนุษย์”
คุณวิชัยบอกว่า นอกจากความถ่อมตัวแล้ว อีกสิ่งที่ต้องฝึกคือ ‘โง่ให้เป็น’ “เมื่อคุณก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำแล้ว จะต้องสร้างผลงานให้เป็นที่ยอมรับด้วย เมื่อมีความาสำเร็จมาเป็นทุนเดิมแล้ว การเป็นผู้นำที่ดีอาจต้อง ‘โง่ให้เป็น’ เพราะถ้าคุณโง่ไม่เป็น ทำเรื่องใหญ่ไม่ได้ บางครั้งความไม่รู้ของเรา อาจผลักดันให้ทีมงานร่วมสร้างสรรค์สิ่งที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตก็เป็นได้” คุณวิชัยกล่าว
คุณเรืองโรจน์ยังเสริมด้วยว่า การเป็นผู้นำที่ดีต้องทำให้ลูกน้องเก่งกว่าตัวเองและผลักดันให้เขาเป็น Better Version ของตัวเองให้ได้ “เจ้านายที่ดีสำหรับผมไม่ใช่เจ้านายที่สปอยล์ แต่ต้องทำให้เราเป็น Better Version ของตัวเอง ผู้นำคือโค้ช คือคนที่สอนลูกน้องให้ดีขึ้นให้ได้ และต้องทำให้ลูกน้องชนะคุณและไปไกลกว่าคุณ ผู้นำที่ดีต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตผู้คน และต้องอยู่ในใจของทุกๆ คนให้ได้ เพราะผู้นำคือ วัฒนธรรมขององค์กร ในโลกขององค์กรใหม่ คำว่า ‘ผู้นำ’ ไม่สำคัญที่ชื่อตำแหน่ง ใครก็เป็นผู้นำได้ เพราะผู้นำ คือสภาวะ คือสิ่งที่ทุกคนต้องมี”
4. หลักคิด...สร้างความกล้าหาญและค้นหาความพิเศษในตัวคุณ
วิธีสร้างความกล้าในแบบของคุณเรืองโรจน์ คือ “จงนึกถึงความกล้าหาญเล็กๆ ที่คุณเคยทำมาในอดีต เหตุการณ์ที่ทำให้คุณเอาชนะความกลัวของคุณได้ หรือหาแหล่งพลังงานใกล้ตัวของคุณให้เจอ เมื่อไรที่คุณเจอความกล้าหาญเล็กๆ นั้นแล้ว เมื่อนั้นแหละคุณจะค้นพบพลังที่ยิ่งใหญ่ในตัวคุณ”
คุณวิชัยก็เชื่อเช่นกันว่า ความกล้าหาญเกิดจากการที่เราค้นพบความพิเศษของตัวเอง “อย่างตัวผมเองรู้สึกพิเศษมากเวลาอยู่กับแม่ อยากให้ทุกคนลองย้อนคิดกันว่าคุณพิเศษกับใคร คนที่มีความหมายกับคุณคือใคร และมันจะนำมาซึ่งความกล้าหาญ”
การจัดงาน ‘SPI CEO VIZ TALK’ ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาองค์กรตามแบบฉบับของ SPI มุ่งเน้นการถ่ายทอดแนวคิดการทำงานของผู้บริหารให้กับพนักงานอย่างใกล้ชิด ตัวอย่างกิจกรรมที่ผ่านมา อาทิ กิจกรรม ‘วิชัย ชวนคุย’ ที่จัดขึ้นทุกวันศุกร์ต้นเดือนเพื่อพูดคุยแนวทางการทำงานกับพนักงานในองค์กร และกิจกรรม ‘วิชัย ชวนกิน’ โดยเป็นการรับประทานอาหารร่วมกับพนักงาน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในองค์กร ซึ่งในอนาคตจะมีการจัดกิจกรรมอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น นับเป็นการสร้างความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืนให้กับ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPI บริษัทในเครือสหพัฒน์ ในฐานะบริษัทชั้นนำของประเทศไทยที่มีความแข็งแกร่งด้านการลงทุนและด้านการดำเนินธุรกิจพัฒนาที่ดินเพื่อการอุตสาหกรรม