กรมการค้าภายในผนึกกำลังตำรวจ บก.ปคบ.เข้าตรวจสอบร้านค้าจำหน่ายทุเรียนใน จ.ชลบุรี ที่ผู้บริโภคโวยโกงเครื่องชั่ง ผู้ค้าชี้แจงเครื่องชั่งใช้มานาน ไม่รู้ว่าไม่เที่ยงตรง เมื่อลูกค้าทักท้วงก็นำไปทิ้งทันที ก่อนนำตัวไปชี้จุดทิ้ง ไม่พบของกลาง แต่แจ้งข้อหา พร้อมนำตัวส่งดำเนินคดีทันที มีโทษคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แนะผู้บริโภคพบเห็น หรือโดนเอาเปรียบแจ้ง 1569 ทันที
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงกรณีร้านจำหน่ายทุเรียนใน จ.ชลบุรี โกงเครื่องชั่ง ทำให้ผู้บริโภคถ่ายคลิปแล้วนำเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2567 ที่ผ่านมา ว่า กรมได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ ร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เข้าตรวจสอบสถานที่ตามที่เป็นข่าว โดยมีหมายค้น และเจ้าของร้านเป็นผู้นำตรวจ ไม่พบเครื่องชั่งตามภาพข่าว เมื่อสอบเจ้าของร้านยอมรับว่า ไม่ทราบว่าเครื่องชั่ง 2 ตัว ตัวไหนมีความไม่เที่ยงตรง เนื่องจากใช้เครื่องชั่งดังกล่าวมาเป็นเวลานาน เมื่อได้รับการทักท้วงจากลูกค้า เพื่อไม่ให้ร้านเกิดความเสียหาย จึงได้นำเครื่องชั่งดังกล่าวไปทิ้งตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และได้ทำการซื้อเครื่องชั่งใหม่มาเพื่อจำหน่ายสินค้าเรียบร้อยแล้ว และได้นำมาแสดง เพื่อสอบเทียบความเที่ยงตรง พบว่ามีความเที่ยงตรงถูกต้อง
ทั้งนี้ ในส่วนของเครื่องชั่งที่นำไปทิ้ง เจ้าหน้าที่ได้ขอให้ไปชี้จุดที่ทิ้ง แต่ไม่พบเครื่องชั่งดังกล่าวแล้ว เจ้าพนักงานชุดเฉพาะกิจจึงแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามมาตรา 270 ป.อาญา ที่บัญญัติว่า “ผู้ใดใช้ หรือมีไว้เพื่อใช้ซึ่งเครื่องชั่ง เครื่องตวง หรือเครื่องวัด ที่ผิดอัตราเพื่อเอาเปรียบในทางการค้า หรือมีเครื่องมือเช่นว่านั้นไว้เพื่อขาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ผู้ถูกกล่าวหารับทราบ รับสารภาพ เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสอบสวนพื้นที่ สภ.พานทอง เพื่อลงบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินการตามกฎหมายแล้ว
“หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 เพื่อจะได้ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมาย และหากพบการกระทำความผิด ก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด และขอย้ำให้พ่อค้าแม่ค้าใช้เครื่องชั่งที่ผ่านการตรวจสอบให้คำรับรองจากกรม หากพบเครื่องชั่งที่ไม่ผ่านการตรวจสอบให้คำรับรอง จะมีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยมาตราชั่งตวงวัด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากพบมีการดัดแปลงแก้ไขเครื่องชั่งจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท ส่วนการไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้ามีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท และผู้ประกอบการใดที่ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า จะมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” นายอุดมกล่าว
ก่อนหน้านี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมเข้าไปตรวจสอบ และดูแลความเป็นธรรมให้กับผู้บริโภค ไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบในการซื้อขายสินค้า และนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้รับนโยบาย และมอบหมายให้ส่วนที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการอย่างเคร่งครัด