กบง.นัดถกอุ้มราคาแอลพีจี 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม หลังสิ้นสุดมาตรการ 30 มิ.ย.นี้ และราคาน้ำมันดีเซลชนเพดาน 33 บาทต่อลิตรในวันพรุ่งนี้ (27 มิ.ย.) หลังกองทุนน้ำมันฯ ติดลบแล้วกว่า 1.1 แสนล้านบาท
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานเปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธานในวันที่ 27 มิ.ย. 2567 มีวาระพิจารณาแนวทางบริหารจัดการราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ที่จะสิ้นสุดมาตรการตรึงราคา 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัมในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ ว่าจะมีการต่อมาตรการช่วยเหลือราคาแอลพีจีโดยตรึงราคาต่อไปอีกหรือไม่ โดยคำนึงถึงผลกระทบค่าครองชีพของประชาชน ซึ่งจะมีการพิจารณาหารือร่วมกันในที่ประชุม
เนื่องจากปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบรวม 110,743 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมันติดลบ 63,121 ล้านบาท และบัญชีแอลพีจีติดลบ 47,622 ล้านบาท อีกทั้งเดือน พ.ย. 2567 ครบกำหนดเวลาชำระคืนเงินต้นงวดแรกประมาณ 30,000 ล้านบาท ให้ธนาคารพาณิชย์ที่กู้มาเพื่อพยุงสถานะกองทุนน้ำมันฯ ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ที่ประชุม กบง.จะหารือเรื่องราคาน้ำมันดีเซลที่ใกล้เต็มเพดานตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) กำหนดให้ปรับขึ้นราคาได้ไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร ซึ่งปัจจุบันราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 32.94 บาทต่อลิตร โดยคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้พิจารณาใช้เงินกองทุนน้ำมันชดเชยราคาดีเซลขึ้นเป็น 2.02 บาทต่อลิตร จากเดิมชดเชยอยู่ 1.60 บาทต่อลิตร เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น และไม่สามารถปรับขึ้นราคาได้เกิน 33 บาทต่อลิตร