xs
xsm
sm
md
lg

“เดนทิสเต้” ทุ่มงบกว่า 140 ล้าน คว้า “ลิซ่า” แบรนด์แอมบาสซาเดอร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ในที่สุดผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก “เดนทิสเต้” (Dentiste) ก็สามารถสรุปดีลการคว้าตัว “ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล” หรือ "ลิซ่า แบล็กพิงก์" มาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ (Brand Ambassador) ต่อได้อีกครั้งด้วยค่าตัวสูงลิบลิ่ว ตามที่ เภสัชกร ดร.แสงสุข พิทยานุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามเฮลท์กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก “เดนทิสเต้” (Dentiste) และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ “สมูท-อี” (Smooth-E) กล่าวว่า ปีนี้บริษัทได้เซ็นสัญญากับลิซ่าต่ออีกปี โดยมีค่าตัวประมาณ 4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณกว่า 100-140 ล้านบาท เป็นสัญญาแบบปีต่อปี 
ว่ากันว่าเป็นค่าตัวที่สูงเพิ่มขึ้นจากเดิมมาก นับตั้งแต่การคว้า “ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล” เป็น Brand Ambassador ครั้งแรกมาตั้งแต่ปี 2564 เรื่อยมา และต่อสัญญามาทุกปี กระทั่งสัญญาได้หมดลงในช่วงที่ผ่านมา 
เหตุผลที่เลือกลิซ่ามาเป็น Brand Ambassador ในขณะนั้น ตลาดรวมผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลช่องปาก หรือออรัลแคร์ มีมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 5% ต่อปี โดยกลุ่มยาสีฟันระดับพรีเมียมมีสัดส่วนราว 20% และเดนทิสเต้มีส่วนแบ่งอยู่ในเซกเมนต์พรีเมียมนี้ 40% ทั้งนี้ พบว่าปีนี้ภาพรวมน้ำยาบ้วนปากโตขึ้น 20% และยาสีฟันโตขึ้น 12% เดนทิสเต้ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด 3% โดยมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้า GEN Z และ GEN Y ให้ได้มากที่สุดในตลาดประเทศไทย

ส่วนในตลาดต่างประเทศนั้น เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของเดนทิสเต้มีวางจำหน่ายใน 25 ประเทศทั่วโลก และทำยอดขายดีมากที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งลิซ่าเป็นศิลปินในสังกัด YG Entertainment ประเทศเกาหลี มีอัลบั้มเดี่ยวชุดแรก “LISA SOLO” ที่สร้างกระแสหลังจากปล่อยภาพออกมาเพียงไม่นาน แฮชแท็ก #SoloistLisa ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ของโลก และติดอันดับ 1 ใน 7 ประเทศทั่วโลก จึงเป็นโอกาสดีมากที่จะต่อยอดผลิตภัณฑ์ในหลายๆ ประเทศ 
 
และครั้งนี้ก็เช่นกัน เป้าหมายของเดนทิสเต้ก็ย่อมมีอยู่ลึกๆ
 
มองในมุมของคนทั่วไป ย่อมรู้สึกว่าเป็นการใช้งบด้วยมูลค่าที่มากที่บริษัทต้องจ่ายไป แล้วจะคุ้มไหม

ทว่า ในมุมมองและความคิดของผู้บริหารเดนทิสเต้เองกลับมองว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากับการที่จะก้าวไปสู่ตลาดโลก ดังนั้น การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อสินค้ามีแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ที่ดีก็ย่อมมีความแข็งแกร่ง ก็เปรียบได้เหมือนกับว่ามีเครื่องจักรพิมพ์แบงก์อยู่ในบริษัท

เกมรุกต่างประเทศของเดนทิสเต้ ในปี 2567 เตรียมขยายตลาดไปในสหรัฐฯ และในภูมิภาคยุโรปให้มากขึ้น จากเดิมที่ทำตลาดอยู่แล้ว ทั้งฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมนี จากปัจจุบันบริษัทได้ส่งออกสินค้าไปจำหน่ายแล้วกว่า 17 ประเทศทั่วโลก ซึ่งมาจากฐานการผลิตที่มีอยูู่ 3 ประเทศ คือ ไทย เกาหลีใต้ และเยอรมนี

แน่นอนว่าการมี ลิซ่า เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ ย่อมต้องเป็นใบเบิกทางที่ดีอย่างยิ่ง


กำลังโหลดความคิดเห็น