xs
xsm
sm
md
lg

เตรียมสร้างเสาตอม่อเชื่อมสองฝั่ง สะพานข้ามคลองผันน้ำคลองชุมพร ช่วง อ.เมือง คาดเสร็จในปีนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมทางหลวงชนบทเผยก่อสร้างสะพานข้ามคลองผันน้ำคลองชุมพร อ.เมือง จ.ชุมพร งบ 42 ล้านบาทเร็วกว่าแผน ปัจจุบันอยู่ระหว่างสร้างเสาตอม่อและพื้นสะพานเชื่อมสองฝั่ง ภาพรวมคืบหน้ากว่า 70% คาดเสร็จสมบูรณ์ในปี 67 เพิ่มความสะดวก รวดเร็วเดินทางขนส่งระหว่างชุมชน

นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า กรมทางหลวงชนบทได้ดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานข้ามคลองผันน้ำคลองชุมพร (กม.12+260) อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 42.150 ล้านบาท ปัจจุบันผลงานการก่อสร้างมีความคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 70 เร็วกว่าแผน ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างเสาตอม่อและพื้นสะพานช่วงกลางน้ำ โดยสะพานดังกล่าวคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2567


เดิมบริเวณจุดก่อสร้างนี้เป็นคลองหัวท่า กว้าง 40 เมตร และมีสะพานแหลมญวนประชารักษ์ (ชพ.023) ยาว 80 เมตร เพื่อให้ประชาชนใช้สำหรับเดินทางข้ามลำน้ำ ต่อมาได้มีการขุดขยายคลอง กว้าง 116 เมตร ตามโครงการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยบริเวณเมืองชุมพร เพื่อผันน้ำในช่วงฤดูฝนหรือช่วงมรสุม ส่งผลให้สะพานเดิมสั้นกว่าลำน้ำ ประกอบกับช่วงตอม่อสะพานเดิมขวางทางน้ำ

ดังนั้น ทช.จึงได้ดำเนินการก่อสร้างสะพานใหม่ทดแทน เพื่อให้ช่วงตอม่อสะพานเหมาะสมกับขนาดของคลองที่ขุดใหม่ ให้ประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกปลอดภัยในทุกฤดู ยกระดับความเป็นอยู่ขั้นพื้นฐานของผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ส่งเสริมต่อระบบการเกษตรในชุมชนให้การคมนาคมขนส่งสินค้าเข้าสู่ตัวเมืองได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น


โดยสะพานแห่งนี้เชื่อมระหว่างหมู่ที่ 7 ตำบลทุ่งคา กับหมู่ที่ 8 ตำบลบางหมาก อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร ก่อสร้างเป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก ความยาว 160 เมตร ผิวจราจรกว้าง 9 เมตร ขนาด 2 ช่องจราจร ไป-กลับ ไม่มีทางเท้า พร้อมถนนต่อเชื่อมผิวจราจรคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง 6 เมตร ความยาว 394 เมตร และมีงานเครื่องหมายจราจร พร้อมอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย


นอกจากนี้ ทช.ยังได้มีการจัดประชุมการมีส่วนร่วมภาคประชาชน เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชน ประชาชนในพื้นที่ มีความเข้าใจเกี่ยวกับความเป็นมา ลักษณะของโครงการ ขั้นตอนการดำเนินงาน พร้อมทั้งได้ตอบข้อซักถาม แลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากผู้ที่เข้าร่วมประชุม เพื่อให้การดำเนินงานสอดคล้องกับความต้องการ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุดอีกด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น