xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” เผยเอกชน 8 รายยื่นซองคุณสมบัติประมูลข้าว 10 ปี วงการข้าวคาดได้ราคา กก.ละ 12-13 บาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พาณิชย์” เผยมีผู้ประกอบการสนใจเข้าร่วมยื่นซองเอกสารคุณสมบัติประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล ปริมาณ 1.5 หมื่นตันอย่างล้นหลาม 8 ราย อคส.เตรียมตรวจสอบคุณสมบัติ ก่อนประกาศผลผู้ผ่าน 13 มิ.ย. และให้ยื่นซองเสนอราคาวันที่ 17 มิ.ย. และประกาศผล 21 มิ.ย. วงการข้าวคาดได้ราคา กก.ละ 12-13 บาท
นายวิทยากร มณีเนตร โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 10 มิ.ย. 2567 องค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้เปิดให้ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมยื่นเอกสารคุณสมบัติการประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล จากคลังสินค้ากลางกิตติชัย (หลัง 2) และคลังสินค้า บริษัท พูนผลเทรดดิ้ง จำกัด (หลัง 4) ชนิดข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 จำนวนประมาณ 15,000 ตัน ที่ได้เปิดประมูลตามนโยบายของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยมีผู้ประกอบการยื่นซองเอกสารทั้งสิ้น 8 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ประกอบการและผู้ส่งออกข้าวรายสำคัญจากจังหวัดต่างๆ


สำหรับขั้นตอนต่อไป อคส.จะตรวจสอบคุณสมบัติผู้ยื่นซองเอกสาร และจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติในวันที่ 13 มิ.ย. 2567 หลังจากนั้นวันที่ 17 มิ.ย. 2567 จะเปิดให้ผู้ผ่านคุณสมบัติยื่นซองเสนอราคา และ อคส.จะเปิดซองเสนอราคาในวันเดียวกัน ก่อนประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูลในวันที่ 21 มิ.ย. 2567 ต่อไป

“ข้อกังวลที่ว่าจะไม่มีผู้มายื่นสฝซองคุณสมบัติจึงจบลงไปได้ และคิดว่าทั้ง 8 รายที่มายื่นซองตรวจคุณสมบัติบัติในครั้งนี้ จะมายื่นซองเสนอราคาในวันที่ 17 มิ.ย. 2567 อย่างพร้อมเพรียงกัน และสิ่งที่เกิดขึ้น แสดงให้เห็นว่าการดำเนินการของกระทรวงพาณิชย์ที่มุ่งรักษาผลประโยชน์ของประเทศ โดยเฉพาะการระบายข้าวให้เป็นไปตามกลไกตลาด มีผู้สนใจเข้ามาร่วมประมูล เพราะข้าวสามารถนำไปปรับปรุงให้ได้ตามมาตรฐาน เพื่อนำไปจำหน่ายได้” นายวิทยากรกล่าว


นอกจากนี้ ขอประชาชนไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพ เพราะหากผู้ประมูลได้ ก่อนที่จะนำข้าวออกจำหน่าย จะต้องนำข้าวไปปรับปรุงคุณภาพเสียก่อน และผ่านการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานข้าวหอมมะลิ โดยกรมการค้าภายใน และถ้าผู้ประมูลได้จะนำไปส่งออกก็ต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานตามระเบียบที่กำหนดโดยกรมการค้าต่างประเทศ ซึ่งจะออกใบรับรองคุณภาพมาตรฐานให้เพื่อไปประกอบพิธีการส่งออก หลังจากที่ได้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพแล้วเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ประกอบการทั้ง 8 รายที่สนใจยื่นซองเอกสารตรวจสอบคุณสมบัติ ได้แก่ 1. บริษัท วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จังหวัดกำแพงเพชร 2. บริษัท ธนสรร ไรซ์ จำกัด จังหวัดชัยนาท 3. หจก.อุบลไบโอเกษตร จังหวัดอุบลราชธานี 4. บริษัท อุบลไบโอเอทานอล จำกัด (มหาชน) จังหวัดอุบลราชธานี 5. บริษัท เอส.เอส.เอ็ม.อา.การเกษตร จำกัด จังหวัดนครสวรรค์ 6. บริษัท ทรัพย์แสงทอง จำกัด จังหวัดสุพรรณบุรี 7. บริษัท สหธัญ จำกัด จังหวัดนครปฐม และ 8. บริษัท บีเอ็นเค การเกษตร 2024 จำกัด จังหวัดนครสวรรค์


ทั้งนี้ ในการยื่นซองคุณสมบัติครั้งนี้ พบว่า คนในวงการค้าข้าวมาร่วมสังเกตการณ์กันอย่างคึกคัก แต่บางรายไม่ได้เข้าร่วมประมูล โดยผู้สังเกตการณ์รายหนึ่งจากบริษัทส่งออกข้าวรายใหญ่ ตั้งข้อสังเกตว่า การเสนอราคาน่าจะได้กิโลกรัม (กก.) ละ 12-13 บาท เพราะแม้ลักษณะทางกายภาพยังดีอยู่ แต่ผู้ชนะการประมูลต้องเสียค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่ต่ำกว่าตันละ 2,500 บาท หรือ กก.ละ 2.5 บาท ตั้งแต่ค่ากรรมกรขนข้าวขึ้นรถบรรทุกออกจากโกดังที่ จ.สุรินทร์ และขนออกจากรถเมื่อถึงสถานที่ปลายทาง ค่าขนส่ง ค่าปรับปรุงคุณภาพข้าว ค่าดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจนกว่าจะขายได้ หรือส่งออก โดยข้าวล็อตนี้ถ้าจะนำไปส่งออก น่าจะมีเพียงตลาดแอฟริกาเท่านั้นเพราะบริโภคข้าวเก่า
























กำลังโหลดความคิดเห็น