xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์”เชิญทูต-หอต่างประเทศ ฟังชี้แจงกม.ต่างด้าว 20 พ.ค.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พาณิชย์” เผย 20 พ.ค. เตรียมเชิญทูตกว่า 20 ประเทศ ตัวแทนหอการค้าต่างประเทศในไทย รับฟังการชี้แจงรายละเอียดพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เพื่อให้เข้าใจถูกต้อง และป้องกันการทำผิดกฎหมาย หลังพบใช้นอมินีเพิ่มขึ้น ส่วนปีนี้ ตรวจสอบธุรกิจเสี่ยงนอมินีกว่า 2.6 หมื่นราย พบ 460 รายต้องเรียกตรวจเอกสาร หลักฐานเพิ่ม ในจำนวนนี้ 91 ราย ลงพื้นที่ตรวจสอบจริงถึงบริษัทแล้ว

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 20 พ.ค.นี้ กรมจะเชิญทูตานุทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยกว่า 20 ประเทศ เช่น ญี่ปุ่น จีน สหรัฐ รัสเซีย พร้อมด้วยตัวแทนหอการค้าต่างประเทศในไทย มารับฟังการชี้แจงเกี่ยวกับการลงทุนของคนต่างชาติในไทย ภายใต้พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวพ.ศ.2542 เพื่อให้นักลงทุนต่างด้าวได้เข้าใจกฎหมายนี้ และจะได้ลงทุนในไทยอย่างถูกต้อง ไม่มีการทำผิดกฎหมาย เพราะปัจจุบัน มีคนต่างด้าว ที่ลงทุนในไทยภายใต้กฎหมายนี้ หลีกเลี่ยงดำเนินการตามกฎหมาย และเป็นสาเหตุให้เกิดคนไทยเป็นตัวแทนอำพรางถือหุ้นแทนคนต่างด้าว (นอมินี) เพื่อทำธุรกิจในไทยโดยหลีกเลี่ยงดำเนินการตามพ.ร.บ.ฉบับนี้

สำหรับการตรวจสอบธุรกิจที่มีความเสี่ยงจะเป็นนอมินีปี 2567 กรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีเป้าหมายตรวจสอบ 26,019 ราย ใน 4 กลุ่มธุรกิจเสี่ยง คือ ท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง, ค้าที่ดิน อสังหาริมทรัพย์, โรงแรม รีสอร์ท และธุรกิจเกี่ยวกับขนส่ง (โลจิสติกส์) ที่อยู่ใน 6 จังหวัด คือ เชียงใหม่ ชลบุรี ภูเก็ต ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี และกรุงเทพฯ โดยล่าสุด ได้คัดกรอง และเรียกขอตรวจสอบเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม เช่น เอกสารทางบัญชี 460 ราย ในจำนวนนี้ ลงพื้นที่ไปตรวจสอบถึงบริษัทแล้ว 91 ราย ทั้งในเชียงใหม่ ภูเก็ต กรุงเทพฯ และชลบุรี ส่วนที่เหลือจะตรวจสอบให้เสร็จภายในปีนี้

ส่วนปี 2566 จากกลุ่มเป้าหมายที่ต้องตรวจสอบ 16,607 ราย กรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบจนพบบริษัทที่เข้าข่ายนอมินี 8 ราย โดยเป็นนิมินีของต่างด้าวจากฝรั่งเศส 5 ราย จีน 2 ราย และอังกฤษ 1 ราย ซึ่ง 2 ใน 8 รายนี้ เป็นสำนักงานบัญชีและสำนักงานกฎหมายที่มีชื่อเสียงของไทย มีพฤติกรรมถือครองหุ้นถึง 267 บริษัท จึงได้ส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สืบสวนขยายผลต่อไปแล้ว

นางอรมนกล่าวว่า ขอเตือนคนไทย ที่เป็นนอมินี หรือคิดจะเป็นนอมินีของคนต่างด้าว อย่าทำ เพราะจะมีความผิดตามกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว มาตรา 36 ที่กำหนดว่า ผู้ให้ความช่วยเหลือ หรือสนับสนุน หรือร่วมประกอบธุรกิจ หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าว เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจ โดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนกฎหมาย มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 ถึง 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ บริษัท หรือนิติบุคคล ที่มีคนไทยเป็นนอมินี จะยังคงทำธุรกิจในไทยต่อไปได้หรือไม่นั้น อยู่ที่การพิจารณาของศาล หากศาลตัดสินให้ยกเลิกการทำธุรกิจ ที่จะต้องขออนุญาต ภายใต้กฎหมายต่างด้าว แต่ไม่ได้ขออนุญาต เช่น ท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง, ค้าที่ดิน อสังหาริมทรัพย์, โรงแรม รีสอร์ท ก็ต้องยกเลิกตามคำสั่งศาล แต่บริษัทยังสามารถทำธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้กฎหมายต่างด้าวได้ หรือหากยังต้องการทำธุรกิจภายใต้กฎหมายต่างด้าวต่อ ก็จะต้องขออนุญาตดำเนินธุรกิจในไทยให้ถูกกฎหมายก่อน ซึ่งกรมจะติดตามบริษัทเหล่านี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย

ทางด้านการอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทยภายใต้พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 เดือนเม.ย.2567 จำนวน 75 ราย เพิ่มขึ้น 7% โดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวจำนวน 16 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ผ่านช่องทางการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน หรือได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และการใช้สิทธิตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศ) จำนวน 59 ราย เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 19,056 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 104% โดยนักลงทุน 3 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐฯ และสิงคโปร์ และรวม 4 เดือน มีจำนวน 253 ราย เพิ่มขึ้น 17% เงินลงทุนรวม 54,958 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42%


กำลังโหลดความคิดเห็น