“สุรพงษ์” หารือแท็กซี่สุวรรณภูมิ ร้องแก้ปัญหา หลัง ทอท.เปิดจุดบริการแกร็บ แต่พบนำรถไม่จดทะเบียนกับ ขบ.ที่ถูกต้อง มาวิ่งบริการ ชี้เดือดร้อนขอเร่งแก้ปัญหา ด้าน คมนาคม รับปากจะแก้ปัญหาใน 2 เดือน
วันที่ 22 เม.ย. 2567 นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานประชุมร่วมกับสมาคมแท็กซี่สาธารณะไทย สมาคมประสานงานรถรับจ้างสุวรรณภูมิ แท็กซี่ยานยนต์ไฟฟ้าและคณะกรรมการบริหารร่วม 3 ภาคีเครือข่ายสมาคม เพื่อการดำเนินการและแก้ไขปัญหาแท็กซี่ในสนามบินสุวรรณภูมิ ระหว่างรถแท็กซี่กับรถที่ให้บริการผ่าน แอปพลิเคชันแกร็บ หลังเปิดจุดให้บริการ ที่สนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่ 28 มีนาคม 2567 แต่ทางแกร็บไม่ปฏิบัติตามที่ตกลงกันไว้ เช่น จากขอบเขตในการรับสัญญาณเพื่อรับงานจะต้องอยู่ในบริเวณโซน D เท่านั้น แต่กลับเปิดสัญญาณทั่วทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ และมีการนำรถที่ไม่ได้จดทะเบียน รย.18 กับกรมการขนส่งทางบกมาให้บริการ ปล่อยให้มีรถผิดกฎหมายมาให้บริการ
นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้รับทราบและหาแนวทางแก้ปัญหาของแท็กซี่มาอย่างต่อเนื่อง โดยในสัปดาห์หน้าจะเชิญผู้ประกอบการแอปพลิเคชัน "แกร็บ" มาหาข้อสรุป โดยมั่นใจว่าภายใน 2 เดือนจะแก้ปัญหานี้ได้
ด้าน นายสรพงษ์ ไพฑูรย์พงศ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กลุ่มรถแท็กซี่ยื่นเรียกร้อง 4 ข้อ คือ 1. ขอให้ออกประกาศกรอบระยะทางที่ใช้มิเตอร์ หลังจากระยะทาง 60 กิโลเมตร (กม.) ให้เป็นไปตามที่ตกลงราคากัน (เหมาจ่าย) ซึ่งจะพิจารณาทั้งผู้ใช้บริการและแท็กซี่ โดยกรอบระยะทางให้เหมาะสมต่อไป
2. การจดทะเบียนรถแท็กซี่วีไอพี โดยเงื่อนไขของ ขบ.กำหนดให้ผู้ประกอบการที่ดำเนินการได้ต้องเป็นกลุ่มนิติบุคคล หรือสหกรณ์แท็กซี่ แต่ทำไมกลุ่มสมาคมฯ ไม่สามารถนำแท็กซี่มาจดทะเบียนเป็นแท็กซี่วีไอพีได้ ซึ่งกระทรวงคมนาคมมอบหมายให้ ขบ.ไปพิจารณา
3. ขอให้ดำเนินการต่อผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการนำรถมาให้บริการผ่านแอปฯ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ต้องเป็นไปตามเงื่อนที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกำหนด เพราะเกรงเรื่องความปลอดภัย และเกิดความเหลื่อมล้ำให้บริการ ซึ่งบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. อยู่ระหว่างดำเนินการ
4. อัตราค่าบริการแกร็บที่มีการลดราคา หรือตัดราคาแท็กซี่ ซึ่งจะตรวจสอบและแก้ปัญหาต่อไป
ด้านนายพัลลภ ฉายินธุ นายกสมาคมประสานงานรถรับจ้างสุวรรณภูมิ กล่าวว่า จากที่ ทอท.เปิดจุดบริการแอปพลิเคชันแกร็บที่สนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่ 28 มี.ค. 2567 พบว่ามีการแอบนำรถยนต์ส่วนบุคคลที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตามเงื่อนไข ขบ. มาบริการรับ-ส่งผู้โดยสารอยู่จำนวนมาก ไม่เป็นไปตามเงื่อนไข และมีการตัดราคาค่าบริการ ส่งผลกระทบต่อแท็กซี่ที่ให้บริการ ซึ่งตามระเบียบ หากนำรถผิดกฎหมายเข้ามารับส่งผู้โดยสารในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะถูกปรับครั้งละ 5,000 บาท ที่ผ่านมาพบว่ามีการฝ่าฝืน มากกว่า 1,000 เที่ยว เป็นค่าปรับรวมกว่า 5 ล้านบาท จึงขอตั้งคำถามถึง ทอท.ว่ามีการดำเนินการเปรียบเทียบปรับแล้วหรือยัง ถ้าหากยังไม่แก้ปัญหาก็ขอให้หยุดบริการไว้ก่อน
ด้านนายศดิศ ใจเที่ยง นายกสมาคมแท็กซี่สาธารณะไทย กล่าวว่า ขอให้รัฐแก้ปัญหา 2 ประเด็น คือ 1. ขอให้ออกประกาศกรอบระยะทางที่ใช้มิเตอร์ หลังจาก 60 กม. ให้เป็นไปตามที่ตกลงราคากัน (เหมาจ่าย) โดยได้เคยเสนอกระทรวงคมนาคมไปแล้วเมื่อปี 2562 เพราะอัตราระยะทางไม่สะท้อนต้นทุนการเดินรถจริง เช่น จาก กทม.ไป จ.นครปฐม ระยะทาง 105 กม. ค่าโดยสาร 700-800 บาท แต่ขากลับต้องตีรถเปล่า ไม่คุ้มต้นทุน จึงเห็นว่าหากระยะทางเกิน 60 กม.ควรใช้เหมาจ่าย
2. การจดทะเบียนรถแบบวีไอพี ที่ต่างจากแท็กซี่ทั่วไป เช่น รถขนาดใหญ่กว่า มีสิ่งอำนวยความสะดวก และมีอัตราค่าโดยสารแบบวีไอพี แต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากสมาคมไม่ได้เป็นนิติบุคคล ขอให้พิจารณาปรับหลักเกณฑ์ใหม่