“สุริยะ” เบรกเพิ่มอาคารทิศเหนือ 'สุวรรณภูมิ' ลุยสร้างเทอร์มินัลใต้ตามแผนแม่บท เร่งขยายรับ 150 ล้านคน/ปี ดัน "ฮับการบินภูมิภาค” มั่นใจปรับปรุงบริการเลื่อนขึ้นอันดับ 50 ใน 1 ปี ด้าน ทอท.รับโจทย์ มิ.ย.ประมูลอาคารตะวันออก เร่งรื้อแผนแม่บทอีก 6 เดือน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง แถลงวิสัยทัศน์ “IGNITE THAILAND, AVIATION HUB” เพื่อเดินหน้าพัฒนาศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค( Aviation Hub) และให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกลับขึ้นมาอยู่ใน 50 อันดับแรกของโลก ภายใน 1 ปี และอยู่ใน 20 อันดับแรก ภายใน 5 ปี นั้น กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งดำเนินการเพื่อให้ เป็นไปตามวิสัยทัศน์และไทม์ไลน์ที่นายกฯวางไว้ให้ได้ และเชื่อมั่น 100% ว่า จะสามารถปรับปรุงพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิให้กลับมามีบริการที่ดีได้ตามนโยบายของนายกฯ แน่นอน
ทั้งนี้ ในต้นเดือนเม.ย. 2567 ทางสกายแทร็กซ์ (Skytrax) ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับสนามบินและสายการบินทั่วโลก จะเดินทางมาประเทศไทย ซึ่งตนจะถือโอกาสไปพบปะ และรับฟังข้อมูล เกี่ยวกับหัวข้อต่างๆ ที่สกายแทร็กซ์ใช้ในการสำรวจ และจัดอันดับสนามบิน จากนั้นจะนำหัวข้อเหล่านี้ไปพิจารณาแก้ไข ยกระดับบริการได้
@แนะสำรวจห้องน้ำห้างดังทำไม“สะอาด-กลิ่นหอม”
เช่น เรื่องบริการห้องน้ำ ก็เป็นหัวข้อที่อาจจะรับทราบกันน้อย ว่าเป็นส่วนหนึ่งในการจัดอันดับ ซึ่งตนได้สั่งการให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. สำรวจตรวจสอบ ทั้งในเรื่องจำนวนที่ต้องทำเพิ่มเติม รวมไปถึงความสะอาดและกลิ่น ให้ทอท.ไปดูว่า ห้องน้ำของห้างสยามพารากอน มีความสะอาด มีกลิ่นหอมแค่ไหน ใช้น้ำหอมยี่ห้ออะไรบ้าง หากดีก็นำมาเป็นต้นแบบที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เรื่องนี้เป็นความใส่ใจในรายละเอียดตามที่นายกฯบอก
@พับอาคารด้านเหนือ เร่งอาคารทิศใต้
สำหรับแผนการพัฒนาขยายขีดความสามารถของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อรองรับ 150 ล้านคน/ปี นั้น นายสุริยกล่าวว่า จะมุ่งพัฒนาตามแผนแม่บทเดิม โดยเร่งด่วนคือ โครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันตกของอาคารผู้โดยสาร (West Expansion) และ ส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันตกของอาคารผู้โดยสาร (West Expansion) พร้อมกับมุ่งก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) โดยตั้งใจจะให้มีการประมูลจัดซื้อจัดจ้างให้เสร็จภายในรัฐบาลนี้ ซึ่งจะไม่มีการขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศเหนือ (North Expansion) ที่เคยมีแนวคิดที่จะเพิ่มเติมจากแผนแม่บท
ด้านนายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า เป้าหมายในการทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็น 1 ใน 50 อันดับของโลกภายใน 1 ปี จะต้องมีการปรับปรุงบริการต่างๆ ต้องมีมาตรฐาน เพราะจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้โดยสารประทับใจและ ความสะดวกสบาย ที่จะส่งผลต่อการจัดอันดับ ทอท.จะดูแลทุกกระบวนการ ทั้ง เช็คอิน ตรวจค้นและ ตรวจหนังสือเดินทาง รวมไปถึงพื้นที่และห้องพักคอยต่างๆ โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) จะเพิ่มเจ้าหน้าที่ 600 นาย และช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (Auto Channel ) 80 ช่อง เพื่อลดระยะเวลาคอย และทอท.จัดหากำลัง 800 อัตราเข้ามาเสริมในกระบวนการตรวจค้นและการแนะนำผู้โดยสาร
@มิ.ย.67 เปิดประมูลอาคารต่อขยายด้านตะวันออก
ส่วนการจะเป็น 1 ใน 20 อันดับภายใน 5 ปี หรือ ภายในปี 2571 จะมีการพัฒนาขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายให้เร่งรัดการลงทุน ส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก ซึ่งมีความพร้อมจะเปิดประกวดราคาในเดือนมิ.ย. 2567 จะเพิ่มพื้นที่ อีก 100,000 ตร.ม. จากเดิม450,000 ตร.ม. จะเป็น 550,000 ตร.ม. และส่วนต่อขยายอาคารด้านตะวันตก จะเพิ่มพื้นที่อีก 100,000 ตร.ม. รวมเป็น 650,000 ตร.ม.รวม 2 โครงการจะเพิ่มพื้นที่อีก 30 % และขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารได้อีก 30 ล้านคน/ปี รวมถึง อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ขีดความสามารถรวม 90 ล้านคน/ปี
แผนระยะยาวในการก่อสร้าง อาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) ซึ่งเป็นไปตามแผนแม่บทเดิม มีศักยภาพในการเพิ่มการเดินทางเข้าท่าอากาศยาน ด้านทิศใต้ จากถนนถนนบางนา-ตราด รองรับรถได้เพิ่มอีกเท่าตัว รวมไปมีความสามารถรองรับผู้โดยสารได้เท่ากับอาคารผู้โดยสารหลัก (Main Terminal) ซึ่งจะทำให้สุวรรณภูมิรองรับได้เป็น 150 ล้านคน/ปี และทำให้สุวรรณภูมิใหญ่เป็นอันดับ ที่ 5 ของโลก
@รื้อแผนแม่บท 6 เดือน เร่งประมูลสร้างอาคารทิศใต้ปลายปี 68
นายกีรติกล่าวว่า ทอท.จะมีการศึกษาทบทวนแผนแม่บทท่าอากาศยานสุวรรณภูมิใหม่ ใช้เวลาประมาณ 6 เดือนหรือภายในเดือน พ.ย. 2567 ภาพรวมการพัฒนาจะนิ่งและชัดเจน เพื่อนำไปสู่การออกแบบรายละเอียดอีกประมาณ 15 เดือน และคาดว่าปลายปี 2568 ไม่เกินต้นปี 2569 จะเปิดประมูล อาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี คาดว่าจะทยอยเปิดให้บริการได้ในปี 2572-2573
“ใน 2567 ปีนี้ จะประมูล ส่วนต่อขยายด้านตะวันออกก่อน ส่วนต่อขยายอาคารด้านตะวันตกและอาคาร SAT-2 รวมถึง อาคารด้านทิศใต้ จะรอทบทวนแผนแม่บทเสร็จก่อน เพราะจะเห็นไทม์ไลน์ในการดำเนินการในแต่ละอาคาร โดยหลักการ อาคารด้านตะวันตก อาคาร SAT-2 กับอาคารด้านใต้ จะประมูลและก่อสร้างในเวลาที่สอดคล้องสัมพันธ์กัน”
สำหรับอาคารด้านทิศเหนือนั้น มีข้อดีในระยะสั้นแต่มีข้อจำกัด ไม่ตอบโจทย์ในการเพิ่มขีดความสามารถสุวรรณภูมิไปที่ 150 ล้านคน/ปี ไม่สอดรับนโยบายฮับการบินของรัฐบาล เพราะอาคารทิศเหนือรองรับได้ 30 ล้านคน/ปี ซึ่งยังไม่เพียงพอและ ต้องไปขยายอาคารทิศใต้อยู่ดี เป็นการลงทุนซ้ำซ้อน ส่วนจุดก่อสร้างอาคารด้านเหนือนั้น ถือว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพ เพราะติดถนนและพื้นที่ Air Side ซึ่งทอท.จะพิจารณาในการทบทวนแผนแม่บท ถึงการใช้ประโยชน์พื้นที่ดังกล่าว เพื่อตอบสนองนโยบาย เช่น การพัฒนาศูนย์ซ่อมอากาศยาน (MRO) และท่าอากาศยานสำหรับเครื่องบินส่วนบุคคล (Private Jet) หรือ คลังสินค้า (Cargo) หรืออาจจะใช้เป็นอาคารับผู้โดยสารในประเทศก็ได้ ตอนนี้ยังไม่ปิดประตูทางเลือกไหน