“ภูมิธรรม”ถกรัฐมนตรีการค้านิวซีแลนด์ เดินหน้าร่วมมือพัฒนาอุตสาหกรรมโคนม หลังต้นปีหน้า ไทยจะเปิดตลาดสินค้ากลุ่มนมและครีม เครื่องดื่มประเภทนมปรุงแต่ง และนมผงขาดมันเนย ภายใต้ FTA ไทย-นิวซีแลนด์ ชี้เป็นผลดีมีวัตถุดิบผลิตสินค้า และขยายโอกาสส่งออกไปอาเซียนและจีน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการหารือกับนายทอดด์ แม็คเคลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้านิวซีแลนด์ ผ่านระบบการประชุมทางไกล เมื่อเย็นวันที่ 10 เม.ย.2567 ที่ผ่านมา ที่กระทรวงพาณิชย์ ว่า ได้มีการหารือถึงความร่วมมือในการพัฒนาตลาดสินค้านมของไทย หลังจากต้นปีหน้า ไทยจะเปิดตลาดสินค้ากลุ่มนมและครีม เครื่องดื่มประเภทนมปรุงแต่ง และนมผงขาดมันเนย ตามความตกลงเอฟทีเอไทย-นิวซีแลนด์ ที่เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตผลิตภัณฑ์จำพวกเนย เบเกอรี โยเกิร์ต ไอศกรีมของไทย ซึ่งจะช่วยเพิ่มแต้มต่อและลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการในการผลิตสินค้าดังกล่าวและเพิ่มศักยภาพให้กับผู้ประกอบการไทยในการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์โยเกิร์ต ไอศกรีม ไปยังตลาดที่มีศักยภาพ เช่น อาเซียนและจีน
ทั้งนี้ นิวซีแลนด์ได้ยืนยันที่จะสนับสนุนความช่วยเหลือในการพัฒนาเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมนมของไทย และจะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการนมและโคนมไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการส่งเสริมเกษตรกรโคนมของกระทรวงพาณิชย์ โดยที่ผ่านมา กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อสร้างแต้มต่อให้กับผู้ประกอบการไทยผ่านโครงการ “โคนมก้าวไกล ขยายตลาดส่งออกได้ด้วย FTA” มาเป็นระยะเวลากว่า 6 ปี ในการเตรียมความพร้อมเกษตรกรไทยบุกตลาดผลิตภัณฑ์นมในต่างประเทศ
นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไทยและนิวซีแลนด์มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดในด้านเศรษฐกิจและการค้ามายาวนาน โดยทั้งสองฝ่ายเป็นสมาชิกความตกลงการค้าเสรีร่วมกันหลายฉบับ ทั้งเอฟทีเอไทย-นิวซีแลนด์ อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ และความตกลงอาร์เซป ซึ่งในปี 2568 จะครบรอบ 20 ปี ของความตกลงเอฟทีเอไทย-นิวซีแลนด์ หรือชื่อที่เป็นทางการ คือ ความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ไทย-นิวซีแลนด์ (TNZCEP)
โดยหลังจากที่ความตกลงฉบับนี้มีผลใช้บังคับใช้ ส่งผลให้มูลค่าการค้าระหว่างไทยและนิวซีแลนด์เพิ่มสูงขึ้นกว่า 3 เท่า โดยสินค้าอุตสาหกรรมไทยส่งออกไปยังนิวซีแลนด์สูงสุด คือ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สำหรับสินค้าเกษตร ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาง
นอกจากนี้ นิวซีแลนด์ได้แจ้งว่าพร้อมที่จะสนับสนุนไทยอย่างเต็มที่ ในการเข้าเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) โดยมองว่าจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าและการลงทุนของไทยในเวทีโลกต่อไปด้วย
ในปี 2566 ไทยและนิวซีแลนด์มีมูลค่าการค้าระหว่างกันรวม 2,242.32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 21.20% โดยไทยส่งออกไปนิวซีแลนด์ คิดเป็นมูลค่า 1,404.14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก และเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ขณะที่ไทยนำเข้าจากนิวซีแลนด์ คิดเป็นมูลค่า 838.18ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ นมและผลิตภัณฑ์นม ผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผัก ผลไม้ เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ เคมีภัณฑ์ และเนื้อสัตว์สำหรับการบริโภค