ส.อ.ท.แนะรัฐขึ้นดีเซลควรยื้อไว้ไม่เกิน 31 บาท/ลิตรเป็นเวลา 2 เดือนเพื่อไม่ให้กระทบประชาชน รัฐต้องใช้กลไกหลายอย่างบริหารทั้งเติมสภาพคล่องกองทุน ดูภาษีฯ ดีเซล ค่าการตลาด ย้ำ ปชช.ถูกซ้ำเติมจากค่าไฟอยู่แล้ว เดือนหน้าค่าไฟจะเป็นปัญหาใหญ่ของภาคครัวเรือนจากอากาศร้อนจัด
นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การปรับราคาดีเซล 50 สตางค์/ลิตรส่งผลให้ราคาขยับเป็น 30.44 บาทต่อลิตร มีผล 6 เม.ย. 2567 ซึ่งการปรับครั้งนี้ทางผู้ประกอบการและประชาชนจะยังพอรับได้แต่ควรจะยื้อไว้ไม่เกิน 31 บาท/ลิตรอย่างน้อย 2 เดือนเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน โดยภาครัฐควรจะใช้กลไกการบริหารในหลายเครื่องมือเพื่อไม่ให้การขึ้นมากเกินไป
“ต้องใช้กลไกหลายอย่างบริหารกองทุนน้ำมันซึ่งต้องการหาแหล่งเงินในการเติมสภาพคล่อง จากกระทรวงการคลังแล้ว ยังมีเรื่องของภาษีสรรพสามิตดีเซลอีกที่จะเพิ่มได้หรือไม่ รวมถึงกลไกค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันและที่เกี่ยวข้องที่จะควรเข้าไปดูว่ามีอะไรจะมาลดผลกระทบได้” นายอิศเรศกล่าว
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าขณะนี้ประชาชนกำลังซื้อชะลอตัวมีค่าครองชีพที่สูงอยู่แล้ว ค่าไฟฟ้า ค่าดอกเบี้ยที่สูงก็ซ้ำเติมประชาชนอยู่ก่อนแล้ว โดยค่าไฟเฉลี่ย 4.18 บาท/หน่วยที่ขณะนี้อากาศร้อนจัดทำให้ความต้องการใช้ไฟเพื่อคลายความร้อนก็สูงขึ้นค่าไฟย่อมสูงเช่นกัน ดังนั้น เดือนหน้าค่าไฟฟ้าจะเป็นปัญหาใหญ่ของประชาชน จากราคาที่ยังสูงและคนใช้เยอะขึ้นทุกครัวเรือนและเมื่อดีเซลขึ้นก็ย่อมซ้ำเติมไปอีก
“เราควรมองมิติของค่าครองชีพประชาชนในทุกด้านนอกเหนือจากค่าน้ำมันดีเซลเพราะตอนนี้ผลกระทบมีหลายด้านมากทั้งค่าไฟ น้ำมัน รวมไปถึงอัตราดอกเบี้ยที่สูง ล้วนมีผลต่อค่าครองชีพ อย่างค่าน้ำมันตลาดโลกและค่าเงินบาทอ่อนราคาน้ำมันขึ้นมาเยอะ ก็พอเข้าใจสถานการณ์ได้ แต่อัตราดอกเบี้ยควรปรับลดลงเร็วกว่านี้” นายอิศเรศกล่าว