“สุพัฒนพงษ์” แย้มยึด กม.รีดค่ากลั่น ถกพรุ่งนี้อีกรอบเคลียร์ตัวเลขเดินหน้าช่วยประชาชน

กระทรวงพลังงานนัดเคลียร์ 6 โรงกลั่นพรุ่งนี้ (29 มิ.ย.) อีกระลอก ลุ้นปิดจ็อบขอกำไรค่าการกลั่นบางส่วนส่งกองทุนน้ำมันฯ เสริมสภาพคล่อง หลังอัตราการนำส่งยังไร้ข้อสรุป รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องต้องชัดหวั่นถูกฟ้องร้องภายหลังได้ “สุพัฒนพงษ์” ยันเดินหน้าเพื่อลดผลกระทบประชาชน

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า วันที่ 29 มิถุนายนกระทรวงพลังงานจะหารือร่วมกับผู้ประกอบการโรงกลั่น 6 รายอีกครั้งเพื่อหาข้อสรุปให้ได้หลังจากการหารือเมื่อ 28 มิ.ย.ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ในเรื่องของการขอความร่วมมือนำส่งกำไรส่วนหนึ่งจากค่าการกลั่นน้ำมันมาเสริมสภาพคล่องให้กับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อช่วยลดผลกระทบราคาน้ำมันขายปลีกให้แก่ประชาชนในช่วงวิกฤต

“ขณะนี้ยอมรับว่ายังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะนำส่วนต่างกำไรจากค่าการกลั่นน้ำมันมาเข้ากองทุนน้ำมันในอัตราเท่าใดและจะนำมาช่วยเหลือสนับสนุนประชาชนอย่างไรบ้าง ซึ่งต้องหารืออีกครั้งเพื่อให้ได้ข้อยุติ โดยยอมรับว่ากระทรวงพลังงานจะดูประเด็นข้อกฎหมายเป็นหลัก ซึ่งการเก็บเงินจากโรงกลั่นเข้ากองทุนน้ำมัน ดำเนินการได้ตามมาตรา 27 กฎหมายกองทุนน้ำมันฯ และทางคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) สามารถตัดสินใจได้เลย โดยไม่ต้องขออนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อีก อย่างไรก็ตามก็มีข้อท้วงติงจากหลายฝ่ายว่าอาจจะขัดหลัก พ.ร.บ.บริษัทมหาชน และ พ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ฯ” นายสุพัฒนพงษ์กล่าว

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานกล่าวว่า การหารือวันนี้คาดน่าจะได้ข้อสรุปออกมาทั้งในด้านกฎหมาย และวงเงินที่ขอความร่วมมือในช่วงวิกฤตน้ำมันแพง โดยเบื้องต้นคาดว่าตัวเลขส่งเงินจากค่าการกลั่นเข้ากองทุนฯ อาจลดลง จากเดิมที่คาดว่าจัดเก็บจากกลุ่มดีเซล 5,000-6,000 ล้านบาทต่อเดือน กลุ่มเบนซิน 1,000 ล้านบาทต่อเดือน และโรงแยกก๊าซ 1,500 ล้านบาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน (ก.ค.-ก.ย. 2565) แต่จะเป็นเท่าใดกำลังพิจารณาอย่างรอบคอบ
 
สำหรับราคาน้ำมันดีเซลขณะนี้อยู่ที่ 35 บาท/ลิตร หากดูจากเงินกองทุนน้ำมันฯ ที่เหลือสภาพคล่องเพียง 3,000 ล้านบาท และติดลบกว่า 1 แสนล้านบาท โดยต้องมีภาระอุดหนุนราคาดีเซลราว 700 ล้านบาท/วัน และอุดหนุนราคาก๊าซหุงต้มอีก 45 ล้านบาท/วันนั้น ในสัปดาห์หน้าก็มีโอกาสที่จะทยอยขึ้นดีเซลอีกครั้งละ 1 บาท/ลิตร ส่วนก๊าซหุงต้มวันที่ 1 ก.ค.จะขยับอีก 1 บาท/กก.ราคาจะไปอยู่ที่ 398 บาท/ถัง 15 กก. โดยสภาพคล่องที่จะติดลบในขณะนี้ก็รอทั้งเงินกู้จากสถาบันการเงินของรัฐ ที่ขณะนี้ก็ไม่มีคำตอบจะได้กู้เงินหรือไม่ รวมทั้งรอความหวังจากเงินของโรงกลั่น หรือเงินอุดหนุนจากรัฐบาล

สำหรับ 6 โรงกลั่นประกอบด้วย 1. บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP 2. บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC 3. บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC 4. บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP 5. บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO และ 6. บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC