ส.อ.ท.เผยยอดผลิตรถยนต์ ก.พ. 67 ลดลง 19.28% จากยอดขายและส่งออกลดลง โดยเฉพาะรถกระบะที่ลดลงจากการเข้มงวดการให้สินเชื่อ และการมาของรถยนต์ไฟฟ้า ส่งผล 2 เดือนแรกปีนี้ยอดผลิตวูบ 15.90% ยอดขายรถยนต์ในประเทศ ก.พ. 67 คาดต่ำสุดในรอบ 2 ปีจากกระบะและรถยนต์นั่งที่ลดลงเหตุการเข้มงวดสินเชื่อ หวังงบประมาณ 6 เดือนหลังและแผนกระตุ้น ศก.รัฐจะช่วยดันยอดขายในประเทศ
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การผลิตรถยนต์รวมเดือน ก.พ. 67 มีทั้งสิ้น 133,690 คัน ลดลงจาก ก.พ. 66 คิดเป็น 19.28% และลดลงจาก ม.ค. 67 คิดเป็น 5.92% เพราะผลิตเพื่อส่งออกและผลิตเพื่อขายในประเทศลดลง 9.25% และ 32.96% ตามลำดับ เนื่องจากการผลิตรถกระบะลดลงเพราะบางบริษัทขาดชิ้นส่วนบางชิ้น ผลิตเพื่อขายในประเทศลดลงจากการผลิตรถยนต์นั่งลดลงเพราะถูกรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้ามาแบ่งส่วนแบ่ง และจากการผลิตรถกระบะลดลงเพราะยอดขายลดลงจากการเข้มงวดในการให้สินเชื่อของสถาบันการเงินส่งผลให้การผลิตรถยนต์รวม 2 เดือนแรก (ม.ค.-ก.พ. 67) มีจำนวนทั้งสิ้น 275,792 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 15.90%
ขณะที่ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของ ก.พ. 67 มีจำนวนทั้งสิ้น 52,843 คันซึ่งคาดว่าจะต่ำสุดในรอบ 2 ปี โดยลดลงจาก ม.ค. 66 คิดเป็น 3.60% และลดลงจาก ก.พ. 66 คิดเป็น 26.15% เพราะยอดขายรถกระบะลดลงถึง 43.2% และรถยนต์นั่งลดลง 20.1% ตามลำดับจากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อตามนโยบายการให้กู้แบบรับผิดชอบและหนี้ครัวเรือนสูง และยอดขายรถ PPV ลดลง 47.6% จากการไปซื้อรถยนต์นั่งตรวจการณ์ที่เป็น HEV มากขึ้นเพราะราคาถูกกว่า
รวมทั้งเศรษฐกิจของประเทศยังเติบโตในระดับต่ำเพราะงบประมาณรายจ่ายปี 2567 ล่าช้าไปถึงเดือนเมษายน ทำให้การใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐลดลง ส่งผลให้ 2 เดือนแรก (ม.ค.-ก.พ. 67) รถยนต์มียอดขาย 107,657 คัน ลดลงจากปี 2566 ในระยะเวลาเดียวกัน 21.49% เช่น รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 27,668 คัน ลดลงจาก ม.ค.66 37.38% รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 14,575 คัน เพิ่มขึ้นจาก ม.ค. 66 111.97% เป็นต้น
“เราก็กังวลนะยอดขายในประเทศแต่ก็คาดหวังว่างบประมาณที่จะเข้ามาในช่วง 6 เดือนหลังจะช่วยขับเคลื่อน ศก.และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลก็น่าจะมีมากขึ้น ซึ่งขณะนี้รถกระบะน่าห่วงเพราะแต่ก่อนจะมียอดขายสูงกว่ารถยนต์นั่งแต่ขณะนี้กลับลดลงต่ำกว่าเพราะคนหันมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นในราคาจับต้องได้ ราคาน้ำมันก็แพงก็อีกปัจจัยหนึ่ง” นายสุรพงษ์กล่าว
ขณะที่การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป ก.พ. 67 จำนวน 88,720 คัน เพิ่มขึ้นจาก ม.ค. 67 คิดเป็น 2.31% และเพิ่มขึ้นจาก ก.พ. 66 คิดเป็น 0.22% ขณะที่ 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ. 67) ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 175,436 คัน เพิ่มขึ้น 0.07% ระยะเวลาเดียวกันปีที่แล้วหากดูจากทิศทางประเทศคู่ค้าที่ยังคงมียอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้นเป้าหมายการส่งออกที่ตั้งเป้าไว้ที่ 1,150,000 คัน ส่งผลให้มีมูลค่าการส่งออกกลุ่มรถยนต์ 2 เดือนแรกปีนี้มีมูลค่า 161,644.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.28%