xs
xsm
sm
md
lg

“นภินทร” แนะเช็กให้ชัวร์ ก่อนซื้อทองคำ หลังพบระบาดหนักช่วงราคาขาขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“นภินทร” ตรวจแหล่งซื้อขายทองคำที่ตลาดเยาวราช เตือนประชาชนเวลาซื้อทองแท่ง ทองรูปพรรณ ต้องซื้อจากร้านที่มีที่ตั้งชัดเจน เป็นสมาชิกสมาคมค้าทองคำ และร้านที่ได้ตรารับรอง BWC อย่าซื้อผ่านออนไลน์ หรือแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ป้องกันเจอทองปลอม หลังระบาดหนักช่วงทองขาขึ้น ด้าน GIT เผยมีการปลอมรูปแบบใหม่ ตรวจสอบยาก ต้องตรวจกับห้องปฏิบัติการ กรมการค้าภายในกำชับร้านค้าปิดป้ายแสดงราคา และใช้เครื่องชั่งที่ได้รับการรับรอง

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้นำกรมการค้าภายใน สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ไปตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายทองคำที่ตลาดเยาวราช หลังจากปัจจุบันราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดแตะบาทละกว่า 37,500 บาท จึงเป็นสาเหตุให้มิจฉาชีพ ร้านค้าออนไลน์บางแห่ง ใช้โอกาสนี้หลอกขายทองคำปลอมในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ ทองเกรด A , ทองไมครอน , ทองโคลนนิ่ง , ทองยัดไส้ รวมถึงทองรูปพรรณ โดยมีการนำเทคนิคใหม่ ๆ เข้ามาใช้ เพื่อให้ทองคำปลอมมีความใกล้เคียงกับทองคำจริงมากที่สุด และไม่สามารถตรวจสอบได้ด้วยตาเปล่า รวมถึงการใช้เครื่องมือตรวจสอบที่มีขนาดเล็ก ไม่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งกระทบร้านค้าที่รับซื้อทองคำ โรงรับจำนำ รวมถึงทำให้ผู้บริโภคเกิดความหวั่นวิตกในการเลือกซื้อทองคำว่าได้มาตรฐานหรือไม่ จึงต้องมาตรวจสอบและแนะนำช่องทางการตรวจสอบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและการซื้อขายทองคำ

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ GIT ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบความบริสุทธิ์ของโลหะมีค่า ให้คำแนะนำในการตรวจเช็กค่าความบริสุทธิ์ของทองคำ ทั้งทองคำแท่ง และทองรูปพรรณ ดำเนินการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคผ่านมาตรฐานการตรวจสอบและออกใบรับรองคุณภาพจาก GIT ให้แก่ผู้ที่สนใจก่อนซื้อขาย และมอบหมายกรมการค้าภายในตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานทองคำ มาตรฐานเครื่องชั่งทองคำ รวมถึงฉลากสินค้า และการติดราคาทองคำ ทองรูปพรรณ และค่ากำเหน็จอย่างชัดเจน เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน รวมทั้งบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานรัฐอื่น เช่น สคบ. เพื่อร่วมกันตรวจสอบด้วย

“การเลือกซื้อทองคำ ขอให้ผู้บริโภคตรวจสอบที่มาของทองให้ดี โดยเฉพาะการซื้อขายผ่านออนไลน์ที่มีราคาต่ำกว่าท้องตลาด โดยแนะนำให้ซื้อร้านทองที่มีสถานที่ตั้งชัดเจน มีประกาศราคาทองคำขึ้นลงอย่างชัดเจน สัญลักษณ์ที่ต้องสังเกตทุกครั้ง คือ ป้ายสมาชิกสมาคมค้าทองคำ (ปีปัจจุบัน) ก็จะช่วยให้มั่นใจได้ในอีกระดับหนึ่ง หรือซื้อจากร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ในโครงการซื้อด้วยความมั่นใจ ผ่านใบรับรอง GIT หรือที่รู้จักในชื่อโครงการ Buy With Confidence (BWC) และหลีกเลี่ยงการซื้อทองคำผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นทองคำแท่ง หรือทองคำรูปพรรณ โดยที่ผ่านมา มีการร้องเรียนการหลอกซื้อขายทองคำปลอม ทั้งทองคำแท่งและทองรูปพรรณ ในปี 2566 พุ่งสูงกว่า 1,600 คดี ซึ่งสูงมาก”นายนภินทรกล่าว


นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการ GIT กล่าวว่า ส่วนใหญ่คนไทยซื้อทองเก็บสะสมเป็นสินทรัพย์ โดยเลือกซื้อทองคำในรูปแบบของทองรูปพรรณ และทองคำแท่ง กับร้านทองที่น่าเชื่อถือ แต่ก่อนเลือกซื้อทองคำต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะปัจจุบันมิจฉาชีพมีวิธีการต่าง ๆ มากมาย ที่ใช้ในการหลอกลวงผู้บริโภค ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อให้พิจารณา และสังเกตที่ทองคำหรือทองรูปพรรณว่ามีตราสัญลักษณ์ร้านค้าที่เลือกซื้อหรือไม่ มีการประทับตัวเลขที่บอกมาตรฐานความบริสุทธิ์ของทองคำที่ตอกไว้หรือไม่ เช่น Gold 965 และยังต้องสังเกตรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติมด้วย อาทิ น้ำหนัก ขนาด และรอยต่อต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบทองคำปลอม หากเป็นร้านขายทองคำ จะใช้การตะไบเข้าไปในเนื้อทองคำ เพื่อเช็กดูว่ามีการสอดไส้หรือไม่ แต่หากเป็นทองแท่งอาจจะมีการนำมาหุ้มหนา ๆ การตะไบ จะไม่สามารถตรวจสอบได้ อีกทั้งวิธีการนี้ ประชาชนและผู้บริโภคทั่วไป รวมถึงห้องปฏิบัติการตรวจสอบขนาดเล็กอาจไม่สามารถตรวจสอบได้ อีกทั้งปัจจุบันได้มีการนำธาตุใหม่ ๆ เข้ามาผสมกับทองคำ เช่น ธาตุรีเนียมและทังสเตน ซึ่งไม่สามารถใช้เทคนิคพื้นฐาน เช่น หยดกรด การเผาไฟ หรือใช้เครื่องมือ X-Ray ขนาดเล็กตรวจวิเคราะห์ได้ ซึ่งหากต้องการผลการตรวจสอบที่แน่ชัด แนะนำให้นำมาตรวจสอบกับ GIT เนื่องจากเป็นห้องปฏิบัติการตรวจสอบอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ ที่มีเครื่องมือขั้นสูง สามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจน อย่างเช่นในกรณีนี้ สามารถตรวจสอบว่าเป็นทองคำแท้หรือทองคำปลอมด้วยคลื่นอัลตราโซนิค ซึ่งไม่ทำลายชิ้นงาน

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมได้อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ออกประกาศกำหนดให้ผู้ประกอบการค้าทองคำ ต้องปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายปลีกราคาทองคำแท่งทองคำรูปพรรณและค่ากำเหน็จให้ชัดเจน รวมทั้งยังกำหนดให้ร้านค้าทองต้องใช้เครื่องชั่งที่ได้มาตรฐานผ่านการรับรองจากกรม ตาม พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด เพื่อให้ผู้บริโภคได้เปรียบเทียบราคาและสร้างความเป็นธรรมให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งผู้บริโภคที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อทองคำ ทั้งในด้านราคาและปริมาณสินค้าหรือบริการ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศโดยจะมีการตรวจสอบให้ความเป็นธรรมและหากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด

โดยกรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคา มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควรหรือมีการกักตุนสินค้าหรือปฏิเสธการจำหน่ายต้องโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกรณีใช้เครื่องชั่งโดยไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากกรมการค้าภายใน มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีมีการดัดแปลงส่วนประกอบของเครื่องชั่งตรงวัด มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 280,000 บาทนายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการ GIT กล่าวว่า ส่วนใหญ่คนไทยซื้อทองเก็บสะสมเป็นสินทรัพย์ โดยเลือกซื้อทองคำในรูปแบบของทองรูปพรรณ และทองคำแท่ง กับร้านทองที่น่าเชื่อถือ แต่ก่อนเลือกซื้อทองคำต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะปัจจุบันมิจฉาชีพมีวิธีการต่าง ๆ มากมาย ที่ใช้ในการหลอกลวงผู้บริโภค ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อให้พิจารณา และสังเกตที่ทองคำหรือทองรูปพรรณว่ามีตราสัญลักษณ์ร้านค้าที่เลือกซื้อหรือไม่ มีการประทับตัวเลขที่บอกมาตรฐานความบริสุทธิ์ของทองคำที่ตอกไว้หรือไม่ เช่น Gold 965 และยังต้องสังเกตรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติมด้วย อาทิ น้ำหนัก ขนาด และรอยต่อต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบทองคำปลอม หากเป็นร้านขายทองคำ จะใช้การตะไบเข้าไปในเนื้อทองคำ เพื่อเช็กดูว่ามีการสอดไส้หรือไม่ แต่หากเป็นทองแท่งอาจจะมีการนำมาหุ้มหนา ๆ การตะไบ จะไม่สามารถตรวจสอบได้ อีกทั้งวิธีการนี้ ประชาชนและผู้บริโภคทั่วไป รวมถึงห้องปฏิบัติการตรวจสอบขนาดเล็กอาจไม่สามารถตรวจสอบได้ อีกทั้งปัจจุบันได้มีการนำธาตุใหม่ ๆ เข้ามาผสมกับทองคำ เช่น ธาตุรีเนียมและทังสเตน ซึ่งไม่สามารถใช้เทคนิคพื้นฐาน เช่น หยดกรด การเผาไฟ หรือใช้เครื่องมือ X-Ray ขนาดเล็กตรวจวิเคราะห์ได้ ซึ่งหากต้องการผลการตรวจสอบที่แน่ชัด แนะนำให้นำมาตรวจสอบกับ GIT เนื่องจากเป็นห้องปฏิบัติการตรวจสอบอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ ที่มีเครื่องมือขั้นสูง สามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจน อย่างเช่นในกรณีนี้ สามารถตรวจสอบว่าเป็นทองคำแท้หรือทองคำปลอมด้วยคลื่นอัลตราโซนิค ซึ่งไม่ทำลายชิ้นงาน

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมได้อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ออกประกาศกำหนดให้ผู้ประกอบการค้าทองคำ ต้องปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายปลีกราคาทองคำแท่งทองคำรูปพรรณและค่ากำเหน็จให้ชัดเจน รวมทั้งยังกำหนดให้ร้านค้าทองต้องใช้เครื่องชั่งที่ได้มาตรฐานผ่านการรับรองจากกรม ตาม พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด เพื่อให้ผู้บริโภคได้เปรียบเทียบราคาและสร้างความเป็นธรรมให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งผู้บริโภคที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อทองคำ ทั้งในด้านราคาและปริมาณสินค้าหรือบริการ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศโดยจะมีการตรวจสอบให้ความเป็นธรรมและหากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด

โดยกรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคา มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควรหรือมีการกักตุนสินค้าหรือปฏิเสธการจำหน่ายต้องโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกรณีใช้เครื่องชั่งโดยไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากกรมการค้าภายใน มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีมีการดัดแปลงส่วนประกอบของเครื่องชั่งตรงวัด มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 280,000 บาท










กำลังโหลดความคิดเห็น