กรมการค้าต่างประเทศสรุปยอดใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ FTA ปี 66 มีมูลค่า 81,589.24 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อาเซียนครองแชมป์ ตามด้วยอาเซียน-จีน ไทย-ญี่ปุ่น ไทย-ออสเตรเลีย และอาเซียน-อินเดีย คาดแนวโน้มปี 67 อาเซียนยังโตต่อ ส่วนจีน ทุเรียนสดจะเป็นสินค้าอันดับ 1 ที่ใช้สิทธิ์สูงสุด เตรียมลงพื้นที่อีก 6 ครั้ง ติวเข้ม SMEs ใช้สิทธิ์ FTA ส่งออก
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าสำหรับการส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ตลอดทั้งปี 2566 มีมูลค่า 81,589.24 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิ์ 82.31% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไทยได้รับสิทธิประโยชน์ภายใต้ FTA โดย FTA ที่ไทยใช้สิทธิ์ส่งออกมากเป็นอันดับหนึ่งตลอดทั้งปี 2566 คือ ความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ATIGA) มีมูลค่า 29,871.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีสัดส่วนการใช้สิทธิ์ 75.75% ของมูลค่าการส่งออกของสินค้าที่ได้รับสิทธิ์ทั้งหมด โดยเป็นการใช้สิทธิ์ส่งออกไปเวียดนามสูงสุดมูลค่า 7,540.08 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมา คือ อินโดนีเซีย มูลค่า 7,127.58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มาเลเซีย มูลค่า 6,839.56 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฟิลิปปินส์ มูลค่า 5,385.78 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และกัมพูชา มูลค่า 1,018.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐตามลำดับ
สำหรับสินค้าที่มูลค่าการใช้สิทธิ์สูงที่สุด 5 อันดับแรก ภายใต้ความตกลง AFTA ได้แก่ ยานยนต์สำหรับขนส่งของที่น้ำหนักรถรวมน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 5 ตัน น้ำตาลที่ได้จากอ้อย น้ำมันปิโตรเลียมและน้ำมันจากแร่บิทูมินัส เครื่องจักรอัตโนมัติและรถยนต์สำหรับขนส่งบุคคล ความจุกระบอกสูบเกิน 1,500-2,500 ลบ.ซม.
ส่วนความตกลง FTA ฉบับอื่นของไทย ที่มีการใช้สิทธิประโยชน์สูง อันดับ 2 คือ ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) มูลค่า 23,495.59 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีสัดส่วนการใช้สิทธิ์ 92.94% ของมูลค่าการส่งออกของสินค้าที่ได้รับสิทธิ์ โดยสินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิ์สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ทุเรียนสด ผลิตภัณฑ์ยางสังเคราะห์ผสมยางธรรมชาติ มันสำปะหลัง สตาร์ชทำจากมันสำปะหลัง และโพลิเมอร์ของเอทิลีน อันดับ 3 ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) มูลค่า 6,803.96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วนการใช้สิทธิ์ 77.84% โดยสินค้าสำคัญที่มูลค่าการใช้สิทธิ์สูงสุด คือ เนื้อไก่ปรุงแต่ง อันดับ 4 ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) มูลค่า 6,280.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วนการใช้สิทธิ์ 60.80% สินค้าที่มูลค่าการใช้สิทธิ์สูงสุด คือ รถยนต์และยานยนต์ที่มีเครื่องดีเซลหรือกึ่งดีเซล และอันดับ 5 ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-อินเดีย (AIFTA) มูลค่า 5,410 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัดส่วนการใช้สิทธิ์ 69.42% โดยมีลวดทองแดง เป็นสินค้าสำคัญที่มีมูลค่าการใช้สิทธิ์สูงสุด
นายรณรงค์กล่าวว่า กรมได้คาดการณ์แนวโน้มการใช้สิทธิประโยชน์ FTA ในปี 2567 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปี 2566 เนื่องจากนโยบายภาครัฐที่ส่งเสริมการส่งออกผ่านการใช้สิทธิ์ FTA โดยอันดับหนึ่งจะยังคงเป็นตลาดอาเซียน และน่าจะยังเป็นเวียดนาม ที่มีการใช้สิทธิ์สูงสุดอีก ส่วนตลาดจีน สินค้าทุเรียนสดจะยังคงเป็นสินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกสูงที่สุดภายใต้ความตกลง FTA และมีแนวโน้มที่ทุเรียนไทยจะยังคงครองตลาดในจีนอย่างต่อเนื่องในปี 2567
ทั้งนี้ ในปี 2567 กรมมีแผนจัดการสัมมนาเพื่อให้ความรู้และติดอาวุธให้แก่ผู้ประกอบการภายใต้โครงการส่งเสริม SMEs ให้แข่งขันได้ในตลาดสากล เรื่องยกระดับการค้าสู่สากลด้วยสิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ FTA อีก 5 ครั้ง ในจังหวัดชลบุรี เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลา และนครพนม