ไทย-อุซเบกิสถานปิดการเจรจาทวิภาคีในการเจรจาเข้าเป็นสมาชิก WTO หลังยอมรับข้อเสนอของไทยในการเปิดตลาด 2 กลุ่มสินค้า พลาสติก และชิ้นส่วนยานยนต์ ที่เป็นสินค้าส่งออกสำคัญของไทย ยันพร้อมสนับสนุนให้เข้าเป็นสมาชิก WTO ต่อไปต่อจากสหภาพคอโมโรสและติมอร์-เลสเต เผยยังได้ร่วมสมาชิก 120 ประเทศประกาศความสำเร็จในการเจรจาจัดทำความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกทางการลงทุนเพื่อการพัฒนาด้วย
นางพิมพ์ชนก พิตต์ฟีลด์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลกและองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก หัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมรัฐมนตรีการค้า WTO ครั้งที่ 13 (MC13) เปิดเผยว่า ได้พบปะและหารืออย่างไม่เป็นทางการกับนาย Azizbek A. Urunov ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีอุซเบกิสถานและหัวหน้าคณะการเจรจาการเข้าเป็นสมาชิก WTO โดยทั้งสองฝ่ายร่วมแสดงความยินดีที่สามารถปิดการเจรจาทวิภาคีภายใต้กระบวนการเข้าเป็นสมาชิก WTO ของอุซเบกิสถานระหว่างสองประเทศได้แล้ว พร้อมหารือแนวทางเพื่อสนับสนุนให้อุซเบกิสถานเข้าเป็นสมาชิก WTO โดยเร็ว ต่อจากสหภาพคอโมโรสและติมอร์-เลสเต ที่เข้าเป็นสมาชิกล่าสุดของ WTO และจะมีการรับรองการเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการในการประชุม MC13
“ได้ขอบคุณที่อุซเบกิสถานยอมรับข้อเรียกร้องการเปิดตลาดล่าสุดของไทย สำหรับสินค้า 2 กลุ่ม คือ พลาสติก และชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของไทย และอุซเบกิสถานถือเป็นตลาดการส่งออกที่มีศักยภาพของไทยในเอเชียกลาง โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มยานยนต์และยานพาหนะ แต่ยังมีมูลค่าการค้าระหว่างกันไม่มากนัก และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความสำเร็จในการเจรจาเปิดตลาดระหว่างไทย-อุซเบกิสถานในวันนี้จะขยายโอกาสทางการค้าและสามารถสนับสนุนอุตสาหกรรมดังกล่าวเพื่อประโยชน์ร่วมกันต่อไป”
ทั้งนี้ นอกจากการเจรจาสองฝ่ายกับไทยแล้ว นาย Azizbek ได้แจ้งความคืบหน้าว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาทวิภาคีอีกประมาณ 10 ประเทศ โดยที่ผ่านมาได้ทยอยปิดการเจรจาแล้วกับหลายประเทศ และมีแผนจะลงนามในพิธีสารการเจรจาทวิภาคีกับคู่ค้าศักยภาพเพิ่มเติมอีก 3 ประเทศเร็วๆ นี้ โดยขอให้ไทยช่วยสนับสนุนในการประชุมคณะทำงานการเจรจาเพื่อเข้าเป็นสมาชิก WTO ของอุซเบกิสถานที่จะจัดขึ้นในเดือน เม.ย. หรือ พ.ค. 2567 และผลักดันการดำเนินการภายในประเทศเพื่อให้ลงนามพิธีสารระหว่างกันในช่วงเวลาดังกล่าว พร้อมกับยืนยันว่าอุซเบกิสถานให้ความสำคัญต่อการเข้าเป็นสมาชิก WTO เป็นอย่างมาก เพื่อผนวกเศรษฐกิจของประเทศเข้ากับกลไกการค้าโลก โดยได้มีการปฏิรูปทางเศรษฐกิจเพื่อเปิดเสรีทางการค้าเพิ่มขึ้น และปรับปรุงกฎระเบียบให้สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ภายใต้ WTO
ในปี 2566 อุซเบกิสถานเป็นคู่ค้าอันดับที่ 103 ของไทยในโลก โดยการค้ารวมมีมูลค่า 106.59 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.0186 ของการค้าไทยในตลาดโลก เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 92.81 และไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้า 87.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อเนื่องมาตลอด 8 ปีที่ผ่านมา สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปอุซเบกิสสถาน เช่น อากาศยาน ยานอวกาศ และส่วนประกอบ แผงสวิตช์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขณะที่ไทยนำเข้าสินค้าสำคัญจากอุซเบกิสถาน เช่น ปุ๋ย และยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ เนื้อสัตว์สำหรับการบริโภค และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ
นอกจากนี้ ในช่วงการประชุม MC 13 ไทยพร้อมสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) กว่า 120 ประเทศได้ประกาศความสำเร็จในการเจรจาจัดทำความตกลงว่าด้วยการอำนวยความสะดวกทางการลงทุนเพื่อการพัฒนา (Agreement on Investment Facilitation for Development : IFD) หลังจากเริ่มเจรจามาตั้งแต่ปี 2561 จนเสร็จเมื่อเดือน พ.ย. 2566 ซึ่งความตกลงนี้ จะช่วยสร้างมาตรฐานและบรรยากาศในการอำนวยความสะดวกทางการลงทุนและการดำเนินธุรกิจที่โปร่งใส รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ เสริมขีดความสามารถทางการแข่งขัน โดยเฉพาะของประเทศพัฒนาน้อยที่สุดและประเทศกำลังพัฒนา โดยความตกลงนี้จะไม่ครอบคลุมเรื่องการเปิดเสรี การคุ้มครอง และกรณีพิพาทด้านการลงทุน