กรมการค้าภายในส่งหนังสือถึงห้างค้าส่งค้าปลีก และห้างร้านทั่วประเทศ ตรวจสอบหลักฐานการอนุมัติให้ปรับขึ้นราคาจากผู้ผลิตก่อนปรับขึ้นราคาจำหน่าย และห้ามขายเกินไปกว่าราคาที่ได้รับอนุมัติ หลังล่าสุดอนุมัติให้ผู้ผลิต 10 รายปรับขึ้นราคาได้ เผยจากการตรวจสอบการจำหน่าย ราคายังคงเดิม จากสต๊อกเก่า คาด 1-2 สัปดาห์นี้ ถึงจะเป็นราคาใหม่ แต่ละยี่ห้อ จะขึ้นไม่พร้อมกัน
ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังห้างค้าส่งค้าปลีก และห้างร้านต่าง ๆ ทั่วประเทศ ให้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานการอนุมัติให้ปรับขึ้นราคานมและผลิตภัณฑ์นม ที่ผู้ผลิตได้รับการอนุมัติจากกรมก่อนที่จะทำการปรับขึ้นราคาจำหน่าย และให้ปรับขึ้นตามราคาที่ได้รับการอนุมัติ ห้ามปรับขึ้นเกินกว่าราคาที่ได้รับการอนุมัติ หลังจากที่กรมได้อนุมัติให้ผู้ผลิตจำนวน 10 ราย ปรับขึ้นราคาจำหน่ายตามต้นทุนน้ำนมดิบที่เพิ่มสูงขึ้นจาก 20.50 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) เป็น 22.75 บาทต่อกก. หรือเพิ่มขึ้น กก.ละ 2.25 บาท
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบราคาจำหน่ายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า ห้างค้าส่งค้าปลีก ยังมีการจำหน่ายสินค้าในราคาเดิม เพราะยังเป็นสต๊อกเก่า และต้นทุนเดิมอยู่ แต่คาดว่าจะเริ่มมีการปรับขึ้นราคาภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ ตามต้นทุนใหม่ ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะขึ้นไม่พร้อมกัน เพราะแต่ละรายได้รับการอนุมัติปรับราคาไม่พร้อมกัน โดยรายที่ได้รับอนุมัติก่อน ก็จะขึ้นราคาตามต้นทุนก่อน ส่วนรายที่ได้รับอนุมัติที่หลัง ก็จะขึ้นทีหลัง
ขณะเดียวกัน กรมยังได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์การค้า และการจำหน่ายในช่วงนี้ทุกวัน ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อตรวจสอบว่ามีการปรับขึ้นราคาตามต้นทุนหรือไม่ หากพบว่ามีการจำหน่ายไม่สอดคล้องกับต้นทุน จะมีความผิดตามกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากผู้บริโภคพบเห็นหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมให้ร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569
สำหรับนมและผลิตภัณฑ์นม ที่อนุมัติให้ปรับราคา มีทั้งนมยูเอชที นมพลาสเจอร์ไรส์ นมสเตอริไลซ์ โดยการปรับขึ้นราคา ในส่วนนมขนาดเล็กที่ได้รับความนิยม 180-225 ซีซี ให้ขึ้นขวดหรือกล่องเฉลี่ย 50 สตางค์ ส่วนนมสดขนาด 1 ลิตร ปรับขึ้นเฉลี่ยกล่องหรือขวดละ 2.50 บาท ส่วนสินค้านมเปรี้ยวและโยเกิร์ต ซึ่งเป็นสินค้าทางเลือก ไม่ต้องขออนุญาตปรับขึ้นราคา และจากการตรวจสอบสถานการณ์ราคา พบว่า ยังไม่มีการปรับขึ้น และจำหน่ายราคาเดิมอยู่
ส่วนเกณฑ์การพิจารณาให้ปรับขึ้นราคานมและผลิตภัณฑ์นม กรมได้อนุญาตให้ขึ้นเฉพาะในส่วนของต้นทุนน้ำนมดิบที่เพิ่มเท่านั้น ไม่รวมต้นทุนอื่น เช่น ค่าแรง ค่าไฟฟ้า ค่าขนส่ง แม้ทางผู้ประกอบการจะขอมาก็ตาม เพราะเป้าหมายของกรม คือ ต้องการดูแลผู้บริโภคให้ได้รับผลกระทบจากขึ้นราคาให้น้อยที่สุด แต่ในขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการต้องอยู่ได้ และเกษตรกรได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นราคาน้ำนมดิบ โดยล่าสุด มีผู้ประกอบการอีกประมาณ 10 ราย ที่อยู่ระหว่างการส่งข้อมูลการขอปรับขึ้นราคา