ผู้จัดการรายวัน 360 - อินเตอร์ ฟาร์มา เปิดเกมส์บุก กางแผน 5 ปีนี้ อัดงบอย่างต่ำ 1,500 ล้านบาท สู่การเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์สุขภาพแบบครบวงจร ทั้งของคนและสัตว์ ด้วยธุรกิจต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ลุยสินค้าใหม่ๆ กว่า 100 รายการ พร้อมดันร้านขายยา LAB Pharmacy และโรงพยาบาลนครพัฒน์เข้าตลาด มั่นใจในปี 2571 รายได้ทะลุ 5,000 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้จัดเต็มพรีเซนเตอร์มาเก็ตติ้ง กับ 3 ซุปตาร์ ควง ‘อั้ม พัชราภา’ นำทีม โกยรายได้ 2,500 ล้าน โต 25%
ดร.ตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า อินเตอร์ ฟาร์มา ดำเนินธุรกิจเข้าสู่ปีที่ 11 ปัจจุบันดำเนินธุรกิจภายใต้ 6 กลุ่มธุรกิจ ซึ่ง 4 กลุ่มแรกเป็นพวกผลิตภัณฑ์ยา หรือกลุ่มธุรกิจต้นน้ำ คือ 1.เวชภัณฑ์รักษาโรค โดยมีตำหรับยากว่า 100 รายการ และมีวางขายอยู่ 16 แบรนด์ ทำรายได้ 30%, 2.นูทาซูติคอล หรือ โภชนะเภสัช หรือกลุ่มอาหารเสริมกึ่งยา มีอยู่ 24 รายการ ทำรายได้ 25% และคอสมาซูติคอล หรือเวชสำอาง มีอยู่ 4 รายการ ทำรายได้ 5%
3.เวชภัณฑ์และผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง กว่า 100 รายการ ทำรายได้ 25% และ 4.ไลฟ์สต็อก หรือผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับปศุสัตว์ กว่า 20 รายการ ทำรายได้ 10% และอีก 2 ธุรกิจใหญ่ ที่ถือเป็นธุรกิจปลายน้ำ คือ 1.ร้านขายยา LAB Pharmacy รายได้ปีก่อนประมาณ 590 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้า 789 ล้านบาท และโรงพยาบาลนครพัฒน์ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช รายได้ปีก่อนประมาณ 185 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 250 ล้านบาท
“แผนธุรกิจ 5 ปี (2567-2571) อินเตอร์ ฟาร์มา ต้องการเป็นผู้นำสุขภาพครบวงจรทั้งของคนและสัตว์ ภายใต้ธุรกิจต้นน้ำ กับผลิตภัณฑ์ยาที่ผลิตจาก 2 โรงงานของตัวเองที่เทคโอเวอร์มา ซึ่งมีอายุมากกว่า 30 ปี และธุรกิจปลายน้ำ คือ ร้านขายยา LAB Pharmacy ที่เปิดมาแล้วหลายปี และโรงพยาบาลนครพัฒน์ที่เทคโอเวอร์มาเช่นกัน
โดยในกลุ่มยา 5 ปีนับจากนี้จะมีออกใหม่อีกร่วม 100 รายการ ภายใต้จุดเด่นของบริษัท คือ เรื่องของไบโอติก และเทรนด์เกี่ยวกับสุขภาพ ชะลอวัย เช่น เวชภัณฑ์เกี่ยวกับตา รวมถึงสินค้าคอนซูเมอร์ที่เป็นเวชสำอาง หรือเครื่องดื่มอาหารเสริม เป็นต้น ส่วนร้านขายยา และโรงพยาบาล จะนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ สู่แผนการเติบโตในอนาคต
“ ตลอด 5 ปีนี้ คาดว่าจะใช้งบลงทุนอย่างน้อย 1,500 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 1 กลุ่มผลิตภัณฑ์ยา 500 ล้านบาท 2. ร้านขายยา LAB Pharmacy 3 ปีนี้จะใช้งบ 150 ล้านบาท สำหรับขยายสาขา โดยปีนี้จะเพิ่มอีก 10 สาขา จาก 32 สาขา สู่ 42 สาขาในสิ้นปี และใน 3 ปีจะเปิดให้ได้ 70 สาขา ซึ่งในปี 2568 มีแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ ด้วยชื่อ LAB Pharmacy เพื่อระดมทุนในการขยายสาขา และแผนช่องทางขายออนไลน์ และขายส่ง เนื่องจากมองว่าเทรนด์ในอนาคตของคนรักสุขภาพ เมื่อไม่สบายสุดท้ายปลายน้ำจะมี 2 ทางเลือก คือ ซื้อยาทานเองจากร้านขายยา และไปโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา 3. โรงพยาบาลนครพัฒน์ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ในปี 2569 จะนำเข้าตลาดหลักทรัพย์เช่นกัน เพื่อระดมทุนสำหรับสร้างตึกเพิ่มเติม (หรือถัดจากที่ LAB Pharmacy เข้าตลาดแล้ว) โดยทั้ง 2 ธุรกิจนี้ ใน 5 ปีนี้คาดว่าจะใช้งบหรือต้องการระดมทุนราว 1,000 ล้านบาท โดยในปี 2571 มั่นใจว่าบริษัทจะมีรายได้สูงถึง 5,000 ล้านบาท
ดร.ตฤณวรรธน์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามปีนี้บริษัทยังคงใช้กลยุทธ์พรีเซ็นเตอร์มาร์เก็ตติ้งอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เติบโตประมาณ 30-40% และสร้างการรับรู้ในวงกว้างและตรงกลุ่มเป้าหมายรวดเร็วมากขึ้น โดยปีนี้ได้ 3 ซุปตาร์ตัวแม่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ คือ 1.อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ เป็นพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์ เบลลา พารา (Bella Para) ยาลดไข้บรรเทาอาหารปวด ทั้ง 7 ได้แก่ ปวดหัว ปวดหลัง ปวดฟัน ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดประจำเดือน ปวดเมื่อยจากไข้หวัด
2.คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส เป็นพรีเซ็นเตอร์ยาสีฟันยู (YUUU) ยาสีฟันโปรไบโอติก โฮลิสติก ออรัล แคร์ และ3.ปราง-กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล เป็นพรีเซ็นเตอร์ โปรแบค 7 ผลิตภัณฑ์โปรไบโอติก ที่มียอดขายสูงสุดในโรงพยาบาลและร้านขายยา ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์โปรไบโอติก ถือว่าประสบความสำเร็จมาก เป็นผลจากบริษัทได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง เช่น Probac BL สูตรสำหรับโรคภูมิแพ้ Probac Fit สูตรสำหรับลดไขมันช่องท้อง Probac MOOD สูตรทำให้อารมณ์ดี ความจำดี หลับง่าย หลับลึก Probac Ultra Collagen สูตรลดริ้วรอย หน้ากระจ่างใส เป็นต้น ทั้งนี้หากเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ คาดว่าผลประกอบการปี 2567 บริษัทน่าจะทำได้ไม่ต่ำกว่า 2,500 ล้านบาท เติบโต 25%
“อินเตอร์ ฟาร์มา สร้างการเติบโต โดยใช้กลยุทธ์แบบเดียวกับไฟเซอร์ เน้นการเทคโอเวอร์ธุรกิจใหญ่ที่ดำเนินการมาก่อนเข้ามาในเครือจึงทำให้เติบโตได้รวดเร็ว ทั้งนี้การที่บริษัทต้องการเป็นผู้นำสุขภาพแบบครบวงจร จึงยังคงมองหาธุรกิจใหม่ๆ ที่ยังขาดอยู่มาเสริมพอร์ต เช่น กลุ่มชะลอวัย หรือเรื่องของกายภาพบำบัด เป็นต้น“ ดร.ตฤณวรรธน์ กล่าว