กรมการค้าภายใน โชว์แผนรับมือพืช 3 หัวภาคเหนือ เผยดึงผู้ประกอบการเข้าซื้อแล้ว

กรมการค้าภายในยันมีแผนรับมือพืช 3 หัว พื้นที่ภาคเหนือที่จะเริ่มออกสู่ตลาด ประสานผู้ประกอบการ ผู้รวบรวม ห้างค้าส่งค้าปลีก ปั๊มน้ำมัน เข้าไปรับซื้อแล้ว มั่นใจดันราคาปรับตัวดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา


นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้เตรียมมาตรการรับมือพืช 3 หัว ได้แก่ หอมแดง หอมหัวใหญ่ และกระเทียม ตามนโยบายที่ได้รับจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้กรมเข้าไปดูแลตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล ไปจนจบฤดูกาล โดยปีนี้ ผลผลิตพืช 3 หัว มีจำนวนรวม 231,608 ตัน แยกเป็นหอมแดง 143,988 ตัน หอมหัวใหญ่ 32,967 ตัน และกระเทียม 54,653 ตัน ซึ่งทุกตัว กรมได้ประสานผู้ประกอบการ ผู้รวบรวม ห้างค้าส่งค้าปลีก สถานีบริการน้ำมัน เข้าไปรับซื้อ เพื่อดึงผลผลิตออกนอกพื้นที่ในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาด ทำให้เกษตรกรไม่ถูกกดราคา และขายผลผลิตได้ราคาดีขึ้น

ทั้งนี้ ในส่วนของหอมแดง จ.ศรีสะเกษ กรมได้นำผู้ประกอบการ เข้าไปทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้ากับเกษตรกร ปริมาณ 6,875 ตัน จากปริมาณผลผลิตรวม 73,657 ตัน ตั้งแต่ช่วงต้นฤดู และขณะนี้ผลผลิตออกสู่ตลาดหมดแล้ว โดยราคาที่เกษตรกรขายได้ หอมแดงสด กิโลกรัม (กก.) ละ 13-15 บาท ปีที่แล้ว กก.ละ 11 บาท หอมแดงแห้ง กก.ละ 40-50 บาท ปีที่แล้ว กก.ละ 30-50 บาท

โดยจากนี้ไป จะเป็นพืช 3 หัวในส่วนของภาคเหนือ ที่จะเริ่มออกสู่ตลาด ซึ่งกรมได้ประสานผู้ประกอบการเข้าไปทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแล้วเช่นเดียวกัน โดยหอมหัวใหญ่ จะซื้อ 7,500 ตัน หอมแดง 7,600 ตัน และกระเทียม 8,200 ตัน และยังประสานสถานีบริการน้ำมัน ทั้ง PT , PTT Station , บางจาก และเชลล์ เข้าไปรับซื้ออีก 500 ตัน เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้เติมน้ำมัน รวม 1,321 สาขา รวมทั้งจะเข้าไปซื้อ เพื่อนำไปจำหน่ายผ่านโมบายพาณิชย์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลด้วย

สำหรับพืช 3 หัวที่จะออกสู่ตลาด แยกเป็นหอมหัวใหญ่ ปลูกใน จ.เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ปริมาณรวม 32,967 ตัน หอมแดง ปลูกใน จ.เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ ลำพูน แม่ฮ่องสอน คงเหลือปริมาณรวม 77,697 ตัน เพราะในส่วนของ จ.ศรีสะเกษ ที่มี 73,657 ตัน ผลผลิตออกหมดแล้ว และกระเทียม ปลูกใน จ.เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน ปริมาณ 54,653 ตัน

“กรมได้เข้าไปดูแลพืช 3 หัว ตามนโยบายที่ได้รับจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่ช่วงต้นฤดู และดูแลต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่ผลผลิตออกมาก เพื่อเร่งกระจายผลผลิตออกจากแหล่งผลิต ซึ่งทำให้ราคาปรับตัวดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว และในส่วนของเกษตรกรที่ปลูกหอมแดงและกระเทียม อยากแนะนำอย่าเพิ่งรีบขายแบบหัวสด เพราะหากเก็บไว้เป็นหัวแห้ง จะได้ราคาดีกว่า”นายกรนิจกล่าว