xs
xsm
sm
md
lg

กรมทรัพย์สินทางปัญญา ขึ้นทะเบียน GI “อะโวคาโดตาก”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมทรัพย์สินทางปัญญาประกาศขึ้นทะเบียนสินค้า GI รายการใหม่ “อะโวคาโดตาก” เป็นรายการที่ 4 ของจังหวัด ตามหลังแปจ่อเขียวแม่สอด ครกหินแกรนิตตาก และกล้วยหอมทองพบพระ มั่นใจช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค เผยที่ผ่านมา สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรกว่าปีละ 1 พันล้านบาท

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมได้ประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เพิ่มอีก 1 รายการ คือ อะโวคาโดตาก เป็นสินค้า GI ลำดับที่ 4 ของจังหวัดตาก ต่อจากสินค้าแปจ่อเขียวแม่สอด ครกหินแกรนิตตาก และกล้วยหอมทองพบพระ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI ไปก่อนหน้านี้ โดยมั่นใจว่าจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับเกษตรกรไทย และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคว่าเป็นสินค้าที่ดี มีคุณภาพ

สำหรับอะโวคาโดตาก ปลูกในเขตพื้นที่จังหวัดตาก มีพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งเป็นระดับความสูงที่เหมาะสมต่อการปลูกต้นอะโวคาโด และยังอยู่ใกล้แหล่งน้ำสำคัญ ได้แก่ แม่น้ำปิง แม่น้ำวัง แม่น้ำกลอง แม่น้ำเมย คลองวังเจ้า และห้วยแม่ละเมา ทำให้มีน้ำตลอดปี ประกอบกับลักษณะของชุดดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ ระบายน้ำได้ดี ดูดซับน้ำได้ในปริมาณที่เป็นประโยชน์ต่อพืช อีกทั้งยังมีธาตุอาหารที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของอะโวคาโดที่เหมาะสม ส่งผลให้เนื้ออะโวคาโดตากมีลักษณะเหนียว รสชาติมัน มีกลิ่นหอม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของอะโวคาโดตาก

นอกจากนี้ อะโวคาโดตาก ถือเป็นผลผลิตที่มีคุณภาพดี เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคอย่างแพร่หลาย จนมีคำกล่าวว่า “หากเป็นอะโวคาโดต้องอะโวคาโดจังหวัดตาก อำเภอพบพระ” ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการจัดงาน “วันเกษตรพบพระ” ขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรของจังหวัดตากให้เป็นที่รู้จัก ส่งผลให้อะโวคาโดตากเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย สร้างรายได้ให้กับจังหวัดตากและเกษตรกรกว่า 1,080 ล้านบาทต่อปี

ที่ผ่านมา กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้มุ่งเน้นให้ความสำคัญในการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของภาคเกษตรกร โดยการส่งเสริมและคุ้มครอง GI เป็นเครื่องมือในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าเกษตร ที่มีความเชื่อมโยงกับแหล่งภูมิศาสตร์และภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับเกษตรกรไทย ตลอดจนส่งเสริมการให้มีควบคุมคุณภาพสินค้าเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค โดยผู้สนใจสินค้า GI สามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว และร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการสินค้า GI ได้ที่ Facebook Page : GI Thailand หรือโทรสายด่วน 1368


กำลังโหลดความคิดเห็น