xs
xsm
sm
md
lg

บูมซอฟต์เพาเวอร์อีเวนต์โต 100% “อินเด็กซ์” ปักธงรายได้ 1,400 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - ตลาดอีเวนต์ปีนี้ฟื้นเต็ม 100% เทียบเท่าปี 62 ก่อนเกิดโควิด รัฐดันซอฟต์เพาเวอร์สร้างเวิลด์อีเวนต์ อินเด็กซ์มุ่งธุรกิจ Own Creation รวม 7 งาน เชื่อสร้างรายได้มั่นคง ดันปีนี้โต 39% ทะลุ 1,433 ล้านบาท หรือทำได้มากกว่าก่อนเกิดโควิด


นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอีเวนต์ในปีที่ผ่านมาทำได้ 14,000 ล้านบาท หรือกลับมา 90% เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนเกิดโควิด การเติบโตที่เกิดขึ้นมาจากภาคเอกชนเป็นหลัก โดยเฉพาะกลุ่มอีเวนต์ประเภทเอนเตอร์เทนเมนต์ อย่าง คอนเสิร์ต จนเกิดโอเวอร์ซัปพลาย มีผู้จัดหลายรายต้องขาดทุน

ส่วนภาครัฐบาลช่วง Q4 งบก็ยังไม่ออกยาวมาจนถึง Q1 ปีนี้ด้วย อีกทั้งท่องเที่ยวปีก่อนก็ยังกลับมาเพียง 80% แต่โดยรวมก็ถือว่าโตดีกว่าปีก่อนหน้า ส่วนปี 2567 นี้ มั่นใจว่าภาพรวมอีเวนต์จะกลับมา 100% หรือมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท ซึ่งต้องอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ปกติ ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงหรือควบคุมไม่ได้เข้ามา โดยเป็นการขับเคลื่อนทั้งจากภาคเอกชน โดยเฉพาะคอนเสิร์ตจำนวนงานไม่ได้ลดลง แต่กำลังซื้ออาจจะทรงตัว ไม่ตื่นเต้นเท่าปีก่อน

อีกส่วนมาจากภาครัฐปีนี้กลับมาเต็มที่ เช่น ททท.มีเรื่องซอฟต์เพาเวอร์เข้ามาเป็นอีเวนต์พิเศษ อย่างอีเวนต์สงกรานต์ที่จะเกิดในปีนี้ ที่จะใช้เงินถึง 270 ล้านบาท เป็นต้น


นายเกรียงไกรกล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ มองว่า การที่ภาครัฐต้องการขับเคลื่อนประเทศผ่านเวิลด์อีเวนต์ทำได้และไทยมีความพร้อม เพียงแต่ต้องเปลี่ยนมายด์เซตใหม่ ต้องโฟกัสให้ชัดเจน ว่าพื้นที่ไหน ภาคไหนเหมาะสมจะจัดอีเวนต์อะไร จับกลุ่มทาร์เกตใด ต้องใช้อีเวนต์ประเภทใด และต้องทุ่มงบโปรโมตอย่างเต็มที่ เพราะในความเป็นจริงไทยเราโดยเฉพาะภาครัฐมีการจัดอีเวนต์ที่น่าสนใจแทบอำเภอ ทุกพื้นที่หากนำมาจับเข้ากลุ่มรวมกันและวางแผนจัดให้ดี สามารถสร้างชื่อจนกลายเป็นระดับเวิลด์อีเวนต์ได้ ซึ่งเรื่องของซอฟต์เพาเวอร์ก็ถือเป็นการสร้างเวิลด์อีเวนต์ให้เกิดขึ้นได้ในเวลานี้

ในส่วนของอินเด็กซ์ จากที่มีการปรับโครงสร้าง ปรับแผนธุรกิจช่วงโควิดที่ผ่านมา ได้มีการขายกิจการหรือยกเลิกธุรกิจที่ร่วมทุนออกไป และหันมาโฟกัสธุรกิจกลุ่ม OWN CREATION ซึ่งจะช่วยให้เกิดรายได้มั่นคงมากกว่า ส่งผลให้ปีที่ผ่านมาบริษัทกลับมาเติบโตได้ 7% คิดเป็นมูลค่า 1,031.34 ล้านบาท ถือเป็นตัวเลขเป็นที่พอใจแม้ว่าเดิมจะวางเป้าไว้ 1,200 ล้านบาทก็ตาม




กำลังโหลดความคิดเห็น