กลุ่มยานยนต์ส.อ.ท.ตั้งเป้าผลิตรถยนต์รวมปี’67 ที่ 1,900,000 คันเพิ่มขึ้นจากปี 2566 คิดเป็น 3.17% แยกเป็นผลิตเพื่อส่งออก 1,156,035 คันลดลง 0.52% เหตุยังกังวลภูมิรัฐศาสตร์ และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศอยู่ที่ 685,628 คันเพิ่มขึ้น 9.39% หวังศก.ไทยจะกลับมาฟื้นตัว
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและในฐานะโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย( ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า กลุ่มยานยนต์ส.อ.ท.ได้ประมาณการผลิตรถยนต์รวมทุกประเภทในปี 2567 จะอยู่ที่ 1,900,000 คันเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ซึ่งผลิตอยู่ที่ 1,841,663 คันหรือเพิ่มขึ้น 3.17% แยกเป็นผลิตเพื่อการส่งออกที่ 1,150,000 คันลดลงจากปี 2566 ที่มียอดผลิตเพื่อส่งออกที่ 1,156,035 คันหรือลดลงคิดเป็น 0.52% การผลิตเพื่อการจำหน่ายในประเทศ 750,000 คันเทียบกับปี 2566 การผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศอยู่ที่ 685,628 คันเพิ่มขึ้น 9.39%
“ การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป ปี 2566 อยู่ที่1,117,539คัน สูงกว่ายอดส่งออกก่อนเกิดการระบาดของโรค
โควิด 19 ปี 2562
และสูงสุดในรอบ5ปี เพิ่มขึ้นจากปี2565 ในระยะเวลาเดียวกัน 11.73%เพิ่มขึ้นเพราะประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่ยังมียอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้นตามเศรษฐกิจที่ยังขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่ที่ปี 2567 ที่ตั้งเป้าไว้ใกล้เคียงของเดิมซึ่งทำให้ดูลดลงเล็กน้อยก็เพราะยังคงกังวลปัจจัยเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์โดยเฉพาะทางด้านภูมิภาคตะวันออกกลางที่มีการสู้รบในทะเลแดงที่อาจจะกระทบต่อการส่งออก รวมไปถึงสมรภูมิรบอื่นๆที่ยังคงไม่แน่นอน แต่ก็ยังคงมีปัจจัยบวกที่ไทยเป็นฐานการผลิตรถกระบะที่อาจไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว การขาดแคลนชิ้นส่วนที่คลี่คลายลง การลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทยที่เริ่มปีนี้จะทำให้มีการส่งออกเพิ่มขึ้น เป็นต้น ”นายสุรพงษ์กล่าว
สำหรับการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ จำนวน 750,000 คัน เพิ่มขึ้น 9.39% ยังคงคาดหวังจากการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติเข้ามาไทย ทำให้เกิดการเชื่อมโยง Supply Chain ของอุตสาหกรรม ความต้องการสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นทั่วโลกจากกฎระเบียบและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เริ่มมีการผลิตยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น แต่ก็ยังคงต้องติดตามปัจจัยลบคือหนี้ครัวเรือนที่สูง หนี้สาธารณะสูง ค่าครองชีพสูง อัตราดอกเบี้ยสูง ส่งผลกระทบต่ออำนาจซื้อของประชาชนลดลง ทำให้ยอดขายอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมยานยนต์ซึ่งมีsupply chain หลายอุตสาหกรรมชะลอตัวลง ส่งผลต่อการจ้างงาน ทำให้รายได้คนงานก่อสร้างและโรงงานลดลง ดังนั้นจึงคาดหวังว่าการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 น่าจะเริ่มได้ในพ.ค.67 เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจหากล่าช้าก็จะกระทบได้เช่นกัน
ส่วนประมาณการผลิตรถจักรยานยนต์ในปี พ.ศ.2567 ประมาณ 2,120,000 คัน น้อยกว่าปี พ.ศ.2566 ซึ่งมีจำนวน 738 คัน ลดลง 0.03% โดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกประมาณ 420,000 คัน เท่ากับ 19.81% ของยอดการผลิตทั้งหมด และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศประมาณ 1,700,000 คัน เท่ากับ 80.19 %ของยอดการผลิตทั้งหมดโดยผลิตเพื่อการส่งออก จำนวน 420,000 คัน ลดลงจากปีที่แล้ว 10.73% ขณะที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ จำนวน 1,700,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ 3.01%