จับตาราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินหลัง”เชลล์”นำขึ้นราคาแล้ววันนี้

จับตาราคาน้ำมันตลาดโลกปิดตลาดเย็นนี้(24ม.ค.) ชี้ชะตาผู้ค้าน้ำมันขยับราคาขายปลีกกลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ หลัง”เชลล์” ขึ้นนำราคาไปแล้ว 0.30 บาท/ลิตร

รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้(24ม.ค.67) ค่ายน้ำมันเชลล์( Shell ) ได้มีการปรับขึ้นราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้น แล้ว 0.30 บาท/ลิตรทั้งแก๊สโซฮอล์ E20และแก๊สโซฮฮล์ 91 รวมไปถึงน้ำมันเชลล์ วี-เพาเวอร์ แก๊สโซฮอล์ 95 (VPG95) ปรับขึ้น 1.30 บาท/ลิตรและน้ำมันเชลล์ วี-เพาเวอร์ ดีเซล (VPD) B7 ปรับขึ้น 1 บาท/ลิตรหลังราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ผู้ค้าน้ำมันรายอื่นๆ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงราคา

ทั้งนี้คาดว่าผู้ค้ารายอื่นๆ จะรอความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันตลาดโลกในช่วงปิดตลาดเย็นวันนี้(24ม.ค.)เพื่อทำการเปลี่ยนแปลงให้สอดรับกับสถานการณ์อีกครั้ง โดย ณ วันที่ 24 ม.ค. ค่าการตลาดกลุ่มเบนซินเฉลี่ยอยู่ที่ราว 3บาท/ลิตรหากราคาน้ำมันตลาดโลกทรงตัวหรือปรับเพิ่มขึ้นโอกาสปรับเพิ่มจะมีสูง

รายงานข่าวหน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์เมื่อ 24 ม.ค.ระบุ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังตลาดคลายกังวลน้ำมันดิบตึงตัว เนื่องจากอุปทานน้ำมันดิบในสหรัฐในบางพื้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เช่น รัฐนอร์ทดาโคตากลับมาดำเนินการผลิตบางส่วนได้อีกครั้งหลังต้องปิดไปจากความหนาว รวมทั้งอุปทานน้ำมันดิบในลิเบียและนอร์เวย์ที่ปรับเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยตลาดยังคงกังวลเรื่องสถานการณ์ความไม่สงบในทะเลแดงที่มีแนวโน้มตึงเครียดขึ้น หลังมีรายงานว่าสหรัฐ และอังกฤษทำการโจมตีกลุ่มกบฏฮูติในเยเมนร่วมกันรอบ 2 ซึ่งอาจเป็นชนวนทำให้สถานการณ์ยืดเยื้อต่อไปได้

ขณะที่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ ราคาน้ำมันเบนซินปิดตลาด 23 ม.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยเบนซิน 95 ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 3.94 เหรียญ/บาร์เรลปิดที่ 101.05 เหรียญ/บาร์เรล หลังค่าขนส่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ความไม่สงบในทะเลแดงที่มีแนมโน้มทวีความรุนแรงขึ้น ประกอบกับการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นในสิงคโปร์ช่วง พ.ค.-มิ.ย. 67 ทำให้อุปทานในภูมิภาคตึงตัวขึ้น

ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยปิดเพิ่มขึ้น 2.72 เหรียญ/บาร์เรล หลังอุปทานมีแนวโน้มตึงตัวขึ้นจากการส่งออกน้ำมันดีเซลจากตะวันออกกลางปรับตัวลดลงกว่า 43% จากค่าเฉลี่ยในช่วง 11 เดือนแรกของปีก่อนหน้า ที่ระดับ 950,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 540,000 บาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการปรับเพิ่มขึ้นของค่าขนส่งเนื่องจากความไม่สงบในทะเลแดง