“นภินทร”นำทัพเอกชนไทยเข้าร่วมงาน Vibrant Gujarat Global Summit ครั้งที่ 10 ที่รัฐคุชราต อินเดีย ยันเดินหน้ายกระดับความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน ความร่วมมือเศรษฐกิจกับรัฐคุชราตต่อไป พร้อมใช้เป็นแหล่งวัตถุดิบ ดันไทยไปลงทุนเพิ่ม สบช่องขาย EEC ดึงการลงทุน ชวนอินเดียมาเที่ยวไทย หลังฟรีวีซ่า
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการนำคณะผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงาน Vibrant Gujarat Global Summit ครั้งที่ 10 ที่รัฐคุชราต ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 10 ม.ค.2567 ที่ผ่านมา ว่า ไทยพร้อมที่จะยกระดับความสัมพันธ์ทางด้านการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับรัฐคุชราตให้เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการใช้รัฐคุชราตเป็นแหล่งวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร เนื่องจากมีความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ทะเลและอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ด้วยเป็นหนึ่งในแหล่งเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลก และรัฐคุชราตยังมีนโยบายที่ส่งเสริมการลงทุน ทั้งพลังงานหมุนเวียน และการก่อสร้าง จึงถือเป็นโอกาสอันดีของนักลงทุนไทยระดับโลกที่จะปักหมุดการลงทุนในรัฐคุชราตได้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ไทยยังได้ใช้โอกาสนี้แนะนำเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจของโลก อาทิ หุ่นยนต์ การบินและโลจิสติกส์ เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ ดิจิตอล และการแพทย์ครบวงจร และมีที่ตั้งอยู่บนจุดยุทธศาสตร์ของอาเซียน เชื่อมโยงภูมิภาคผ่านระบบขนส่งที่ทันสมัย อาทิ รถไฟความเร็วสูง ท่าเรือเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ท่าอากาศยานนานาชาติ และความเชื่อมโยงด้านดิจิทัลด้วยระบบเครือข่ายโทรคมนาคมและอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง จึงเป็นโอกาสของนักลงทุนจากทั่วโลกที่จะเข้ามาลงทุน รวมถึงนักลงทุนอินเดีย
ขณะเดียวกัน ได้เชิญชวนนักท่องเที่ยวอินเดีย ให้เดินทางมาท่องเที่ยวในไทย หลังจากที่รัฐบาลไทยได้ยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวอินเดียแล้ว จนถึงวันที่ 10 พ.ค.2567 โดยนักท่องเที่ยวอินเดียจะสามารถพำนักนานกว่า 30 วัน และยังมีเที่ยวบินตรงของสายการบินไทยระหว่างกรุงเทพฯ กับรัฐคุชราตแล้ว รวมทั้ง พร้อมที่จะส่งเสริมนักท่องเที่ยวไทยให้ไปท่องเที่ยวที่รัฐคุชราต เพราะมีความร่ำรวยด้านศิลปะวัฒนธรรมที่ได้รับการถ่ายทอดและเก็บรักษามามากกว่า 1,000 ปี อย่างบ่อน้ำ ริ นิ คิ วาฟ (Rani Ki Vav) ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนแม่น้ำสารัสวะตี และรูปปั้นรัฐบุรุษที่ยิ่งใหญ่ของโลกอย่างท่านมหาตะมะ คานธี
“ได้ย้ำไปว่ารัฐบาลไทยมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจและพัฒนาความร่วมมือระหว่างไทยกับอินเดียอย่างใกล้ชิด เพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ อันเป็นประโยชน์กับไทยและอินเดียในการขยายช่องทางการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจในทุก ๆ ด้านระหว่างกันอชต่อไป” นายนภินทร กล่าว
สำหรับงาน Vibrant Gujarat Global Summit ครั้งที่ 10 เป็นงานระดับรัฐที่มุ่งส่งเสริมการลงทุนในรัฐคุชราต ประกอบด้วย 4 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 1.การสัมมนาแลกเปลี่ยนมุมมองการดำเนินนโยบายเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐ 2.งานแสดงสินค้าและความก้าวหน้าทางธุรกิจ 3.กิจกรรมสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ และ 4.การลงนามความร่วมมือด้านการลงทุนระหว่างรัฐกับรัฐเอกชนกับเอกชน และรัฐกับเอกชน
โดยในปีนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้นำเอกชนเข้าร่วมงานและจัด Thai Pavilion ภายในงานจำนวน 4 ธุรกิจ ได้แก่ 1.บริษัท Sri Thai Superware (บริษัท ศรีไทย ซุปเปอร์แวร์) หนึ่งในผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์เมลามีนที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้เข้ามา ตั้งโรงงานในรัฐคุชราตตั้งแต่ปี 2014 สร้างงานกว่า 400 ตำแหน่ง และยังมีเป้าหมายจะขยายโรงงานทั้งในภาคเหนือและภาคใต้ของอินเดีย 2.บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้า และพลังงานอัจฉริยะของกลุ่ม ปตท. ได้ร่วมลงทุนกับกลุ่ม Avaada Group ผู้ดำเนินธุรกิจพลังงานหมุนเวียนชั้นนำในประเทศอินเดีย ในอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 61 พันล้านรูปีอินเดีย หรือเท่ากับ 27,000 ล้านบาท ด้วยเป้าหมายกำลังการผลิตเติบโตสู่ 11 กิกะวัตต์ในปี 2569 ซึ่งสอดคล้องกับโยบายการส่งเสริมอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียนของภาครัฐประเทศอินเดีย 3.บริษัท Siam Cement Group ได้ร่วมทุนกับบริษัท BigBloc Construction ของอินเดีย จัดตั้งโรงงานผลิตอิฐบล็อคและอิฐมวลเบาในรัฐคุชราต ซึ่งคาดว่าจะเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอินเดียตะวันตกสร้างเม็ดเงินมากกว่า 125 ล้านรูปีอินเดีย และ 4.P-Dictor เป็นบริษัทในเครือ PTT ซึ่งให้บริการระบบซ่อมบำรุงเชิงพยากรณ์ (Predictive Maintenance)โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และบริการเฝ้าติดตามสุขภาพของเครื่องจักรทางไกล (Machine remote monitoring service) ซึ่งมีแผนขยายธุรกิจการให้บริการในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานและปิโตรเคมีคอลในประเทศอินเดีย