กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ชี้เป้านักลงทุนไทย ลงทุนทำธุรกิจที่สิงคโปร์ เผยมี 8 ธุรกิจที่มีโอกาสสูง ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม เกษตรกรรม เทคโนโลยีชีวภาพ ของว่างและอาหารฟาสต์ฟู้ด การขนส่ง ซักรีด ซ่อมรถยนต์ และบริการภาคการเงิน
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ และให้รายงานผลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับรายงานจากนางณฐมา คูณผล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ สิงคโปร์ ถึงโอกาสในการลงทุนทำธุรกิจในสิงคโปร์ หลังจากที่รัฐบาลสิงคโปร์ได้อำนวยความสะดวกด้านต่าง ๆ เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนทำธุรกิจในสิงคโปร์
โดยทูตพาณิชย์ได้รายงานข้อมูลว่า จากการสำรวจตลาด พบว่า มี 8 ธุรกิจ ที่มีโอกาสในการเข้าไปลงทุน ได้แก่ ธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่ม เป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมลงทุนของชาวต่างชาติมากที่สุด เพราะลงทุนได้ง่าย และมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง ถัดมาเป็นภาคเกษตรกรรม โดยปัจจุบันอุตสาหกรรมการเกษตรในสิงคโปร์มีจำนวนค่อนข้างน้อย ในขณะที่ความต้องการอาหารและผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้มีความต้องการลงทุนเกษตรกรรมเพิ่มขึ้น ซึ่งค่าดำเนินการทำฟาร์มในสิงคโปร์จะค่อนข้างต่ำ และยังสามารถสร้างผลกำไรที่ดีได้ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีภาคเทคโนโลยีชีวภาพ ที่รัฐบาลสิงคโปร์ได้ส่งเสริมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ทุนสนับสนุนการวิจัย การสรรหาบุคลากร และการพัฒนานักวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำหรับนักลงทุน แต่การลงทุนธุรกิจภาคอุตสาหกรรมนี้ต้องใช้ความรู้เชิงลึกและเงินลงทุนสูง
สำหรับธุรกิจอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น ของว่างและอาหาร Fast Food เป็นหนึ่งในธุรกิจดำเนินการได้ที่ง่ายที่สุด เพราะไม่จำเป็นต้องมีคุณสมบัติพิเศษใด ๆ ตลาดสิงคโปร์เป็นตลาดที่เหมาะกับอาหารกลุ่มของว่างและ Fast Food ซึ่งนักลงทุนสามารถทำกำไรได้มาก แต่ลงทุนไม่สูง ภาคการขนส่ง เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมสำคัญของเศรษฐกิจสิงคโปร์ และมีความต้องการในตลาดสูงขึ้นเรื่อย ๆ ภาคอิเล็กทรอนิกส์ เป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในภาคการผลิตทั้งหมดของสิงคโปร์ โดยคิดเป็น 48% ของอุตสาหกรรมการผลิตทั้งหมด จึงยังมีโอกาสอีกค่อนข้างมากสำหรับการลงทุนในตลาดอิเล็กทรอนิกส์ หรือแม้แต่การลงทุนขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้การลงทุนไม่สูง ก็เป็นโอกาสแก่นักลงทุนรายย่อยเช่นกัน
ธุรกิจซักรีด ชาวสิงคโปร์มักไม่มีเวลาจัดการซักผ้า รีดผ้า ดังนั้น ธุรกิจซักรีดจึงเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยม เพราะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวให้กับชาวสิงคโปร์ ธุรกิจซ่อมรถยนต์ การเดินทางโดยรถยนต์ เป็นเรื่องสำคัญรองลงมาในสิงคโปร์ เนื่องจากสามารถช่วยประหยัดเวลาได้ แต่ธุรกิจขายรถยนต์อาจจะใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง ดังนั้น ธุรกิจซ่อมรถยนต์ หรือการขายอะไหล่รถยนต์ ก็เป็นธุรกิจที่ก่อให้เกิดรายได้ดี ในสิงคโปร์เช่นกัน
ธุรกิจบริการภาคการเงิน สิงคโปร์เป็นประเทศที่เปิดรับธุรกิจหลากหลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ เมื่อมีการดำเนินธุรกิจ การจัดการด้านการเงิน จึงจำเป็นต้องมีมืออาชีพที่ให้บริการด้านบัญชี การทำบัญชี การตรวจสอบ การยื่นภาษี และข้อมูลด้านกฎหมายเข้ามาช่วยดำเนินการ ดังนั้น จึงเป็นอีกหนึ่งโอกาสในการดำเนินธุรกิจในสิงคโปร์
“นักลงทุนหรือนักธุรกิจชาวไทยที่สนใจลงทุน หรือสร้างธุรกิจเข้าสู่ตลาดสิงคโปร์ สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจหรืออุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่กล่าวไปข้างต้น เพราะเป็นธุรกิจที่มีโอกาสในการขยายตัวในตลาดสิงคโปร์เป็นอย่างมาก โดยสามารถขอคำปรึกษาได้ที่กรม หรือทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ที่สิงคโปร์ได้”นายภูสิตกล่าว