ทอท.พร้อมรับนโยบายฟรีวีซ่าไทย-จีน "สุริยะ" สั่งเตรียมอำนวยความสะดวกพร้อมจัดแคมเปญดึงดูดนักท่องเที่ยวและสายการบินเต็มที่ คาดปี 67 ช่วงมาตรการ VISA FREE จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยกว่า 8 ล้านคน ฟื้นตัว 75% เทียบกับปี 62 ที่มีนักท่องเที่ยวจีน 11.1 ล้านคน
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) หรือ ทอท.กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลไทยได้สานสัมพันธ์อันดีกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งทำให้สาธารณรัฐประชาชนจีนได้มีนโยบายยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของไทย และผู้ถือหนังสือเดินทางกึ่งราชการ
และหนังสือเดินทางธรรมดาของจีน (VISA FREE) ซึ่งจะเริ่มวันที่ 1 มีนาคม 2567 นั้น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้ ทอท.ซึ่งบริหารท่าอากาศยานหลัก 6 แห่งของประเทศไทย ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ เตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของนักเดินทางชาวจีนและชาวไทยที่จะเดินทางไปกลับระหว่างสองประเทศ และจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงการบริหารจัดการการให้บริการในท่าอากาศยานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้เดินทางทุกคนได้สัมผัสกับการบริการที่สะดวก ปลอดภัย และรวดเร็ว อันจะนำมาซึ่งความประทับใจ และเกิดภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ ซึ่งนโยบายดังกล่าวถือเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และยกระดับความสำคัญของหนังสือเดินทางไทย เนื่องจากที่ผ่านมาสาธารณรัฐประชาชนจีนได้มีนโยบาย VISA FREE ให้กับ 5 ประเทศเท่านั้น
สำหรับหนังสือเดินทางของไทยและจีน ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบริหารจัดการการให้บริการผู้โดยสารในขั้นตอนต่างๆ ทั้งในส่วนของผู้โดยสารขาเข้าและขาออก ให้เกิดความคล่องตัว ไม่ให้เกิดภาพความหนาแน่นในแต่ละจุดบริการ โดยเฉพาะในขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง และบริเวณสายพานรับกระเป๋า รวมทั้งได้นำเทคโนโลยีมาอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ทอท.มองว่านโยบายดังกล่าวจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน ส่งเสริมให้เกิดการเดินทางระหว่างสองประเทศมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการนำเม็ดเงินไหลเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ กระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น
คาดว่าช่วงที่มีมาตรการ VISA FREE ในปี 2567 จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยกว่า 8 ล้านคน ฟื้นตัวร้อยละ 75 เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทย 11.1 ล้านคน
นอกจากการอำนวยความสะดวกในด้านการให้บริการผู้โดยสารแล้ว ทอท.จะประสานความร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจัดแคมเปญดึงดูดนักท่องเที่ยว และสายการบิน เพื่อให้เกิดอุปสงค์ในการเดินทางมายังประเทศไทย ซึ่งปัจจุบัน ทอท.ได้มีโครงการกระตุ้นตลาดด้านการบิน หรือ Performance-Based Incentive Scheme ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะดึงดูดให้สายการบินเพิ่มปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารระหว่างประเทศ
ทอท.จะสนับสนุนสายการบินที่ทำการบินในเที่ยวบินแบบประจำระหว่างประเทศ (International Scheduled Flight) รวมถึงเที่ยวบินพิเศษ (Extra Flight) และเที่ยวบินแบบไม่ประจำหรือเช่าเหมาลำนอกเหนือจากจำนวนเที่ยวบินของสายการบินตนเองตามตารางการบินที่ได้รับการอนุมัติ ณ วันที่ 8 กันยายน 2566 โดยสายการบินจะได้รับส่วนลดค่าบริการในการขึ้นลงของอากาศยาน 175 บาทต่อผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น 1 คน ทั้งนี้ ส่วนลดค่าบริการในการขึ้นลงของอากาศยานจะต้องไม่เกินร้อยละ 75 ของค่าบริการขึ้นลงของอากาศยานของเที่ยวบินส่วนเพิ่ม โดยมีระยะเวลาของโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566-31 มีนาคม 2567 รวมไปถึงโครงการสำหรับสายการบินที่เปิดให้บริการเส้นทางการบินใหม่ (New Routes Incentive) โดย ทอท.จะพิจารณาให้ส่วนลดค่าบริการในการขึ้นลงของอากาศยาน ค่าบริการที่เก็บ
อากาศยาน และค่าบริการใช้สะพานเทียบเครื่องบิน (Landing Charges, Parking Charges และ Boarding Bridge Charges) เพื่อดึงดูดให้สายการบินเปิดเส้นทางการบินใหม่มาที่ท่าอากาศยานหลัก และท่าอากาศยานในภูมิภาคของ ทอท. เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองด้วย
นายกีรติกล่าวว่า ทอท.พร้อมสนองนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการผู้โดยสารให้มีความสะดวก รวดเร็ว และคล่องตัว ทำให้ผู้โดยสารเกิดความประทับใจ และความเชื่อมั่น ซึ่งท่าอากาศยานถือเป็นประตูต้อนรับผู้เดินทางจากทั่วโลก และเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบิน ส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจประเทศโดยรวมต่อไป